OSP-ยันฮี ร่วมทางสายเขียว

ดูเหมือน OSP กับยันฮี จะคิดเห็นตรงกัน โดยมองว่าแข่งกันไปก็เหนื่อยเปล่า ๆ ปลี้ ๆ จึงมามัดรวมกันเลยดีกว่า...


จากเดิมว่ายน้ำแข่งกันอยู่..!! สำหรับบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP กับบริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด (ยันฮี) ซึ่งขายเครื่องดื่มผสมวิตามินซีเหมือน ๆ กัน โดยยันฮีเป็นผู้บุกเบิกและทำตลาดน้ำดื่มผสมวิตามินซีแบบเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 2557 ภายใต้แบนรด์ “ยันฮี วิตามิน วอเตอร์” ก่อนจะมาดังเปรี้ยงปร้างในปี 2563 จากการมาของโควิด ที่ทำให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

ฟาก OSP ก็มีเครื่องดื่มผสมวิตามินซี ภายใต้แบรนด์ C-vitt ซึ่งเป็นเจ้าตลาดครองมาร์เก็ตแชร์กว่า 70% เลยทีเดียว…

ทว่าดูเหมือน OSP กับยันฮี จะคิดเห็นตรงกัน โดยมองว่าแข่งกันไปก็เหนื่อยเปล่า ๆ ปลี้ ๆ จึงมามัดรวมกันเลยดีกว่า…

แต่ครั้นจะทำแค่เครื่องดื่มผสมวิตามินซีอย่างเดียว คงไม่เข้าท่า ก็เลยเบนเข็มมาร่วมทางสายเขียว ต่อยอดไปสู่การทำเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากกัญชง-กัญชาซะเลย ด้วยการตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อว่า บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด เพื่อค้นคว้า พัฒนา ทำการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากกัญชา กัญชง หรือสารสกัดจากกัญชา-กัญชง

งานนี้เข้าตำราเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรนั่นเอง..!?

โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าว มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โครงสร้างการถือหุ้น OSP ถือหุ้น 55% ส่วนยันฮี ถือ 45%

การผนึกกำลังของ OSP กับยันฮี ครั้งนี้น่าสนใจ…ในมุมของยันฮี ด้วยความเป็นบริษัทในเครือโรงพยาบาลยันฮี อย่างน้อยก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในแง่คุณภาพของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม หากเทียบกับค่ายอื่น เนื่องจากมีมาตรฐานของโรงพยาบาลเป็นเครื่องการันตี

ส่วน OSP ในแง่ของแบรนด์ไม่ต้องพูดถึง เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ OSP มีมากกว่านั้น คือ สายส่งที่แข็งแกร่ง ก็จะทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ บวกกับความพร้อมในการทำมาร์เก็ตติ้ง ก็เป็นแต้มต่อที่จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้เร็วขึ้น

แหม๊…การจับไม้จับมือของทั้งสองค่ายครั้งนี้ ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวทีเดียว..!!

อีกจุดที่น่าสนใจ ถ้าไปดูโอกาสทางธุรกิจ มีการประเมินกันว่า มูลค่าตลาดกัญชงไทยในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2568 จะสูงถึง 1.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดตลาดเครื่องดื่มผสมกัญชงมีมูลค่าตลาด 7.6 พันล้านบาท หรือสัดส่วน 48% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด…ก็ถือเป็นตลาดใหญ่ทีเดียว

ขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีแบรนด์ไหนเป็นเจ้าตลาดที่ชัดเจน…นั่นหมายความว่า โอกาสของ OSP กับยันฮี ค่อนข้างเปิดกว้าง..!!

ซึ่งการลงมือทำเป็นเจ้าแรก ๆ จะทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ก็ต้องตอบโจทย์ให้ตรงใจผู้บริโภคด้วยนะ…ไม่งั้นจะกลายเป็นออกก่อน แล้วเจ๊งก่อนนะสิ…

เอาเป็นว่า ถ้าดูจากปัจจัยแวดล้อมแล้ว ก็น่าจะดีอ่ะนะ แต่จะไปได้ดีจริงหรือเปล่า..? อันนี้ต้องติดตามตอนต่อไป…

แต่น่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่เป็นสตอรี่เชิงบวก แต่หุ้น OSP ไม่ค่อยตอบสนองเอาซะเลย วานนี้ (10 ม.ค.) ช่วงระหว่างวันปรับขึ้นกะปริบกะปรอย ก่อนจะปิดตลาดเสมอตัวที่ 33.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง…

เอ๊ะ…หรือจะตายด้านไปซะแล้ว ก็ไม่รู้สินะ…

แต่นักวิเคราะห์ก็ยังเชียร์ “ซื้อ” หุ้น OSP ที่ราคาเป้าหมาย 38 บาท…ก็ยังมีอัพไซด์ให้เล่นอีกพอสมควร

แต่ถ้าใครเห็นต่าง ก็ไม่ว่ากัน…เอาที่สบายใจล่ะกัน

…อิ อิ อิ…

Back to top button