JSP ราคาทิ้งห่างเทนเดอร์.!
แต่ถ้า SENA ต้องการจะรวบหัวรวบหาง JSP จริง ๆ งานนี้เห็นที ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ต้องอัพราคาเทนเดอร์ใหม่ซะแล้วกระมัง
น่าแปลก..!! นับตั้งแต่บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ประกาศตั้งโต๊ะเทนเดอร์หุ้นบริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ที่เหลือสัดส่วน 64.65% ที่ราคาหุ้นละ 0.50 บาท ก็ดูเหมือนนักลงทุนจะต๊กกะใจแค่แป๊บเดียวเองนะ เพราะหลังจากนั้นหุ้น JSP ก็วิ่งแรลลี่ต่อเนื่อง…โดยรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปรับขึ้นไปแล้วกว่า 20%
ทั้ง ๆ ที่ธรรมชาติของหุ้นที่ถูกเทนเดอร์ ราคาในกระดานมักจะวิ่งหาราคาเทนเดอร์ แต่ในเคสของ JSP ตรงกันข้าม ราคาในกระดานกลับหนีห่างราคาเทนเดอร์ที่ 0.50 บาท ซะงั้น…จนปัจจุบันราคาวิ่งไปแตะที่ 0.92 บาทแล้ว
เผลอ ๆ จะอัพสถานะเป็นหุ้นเต็มบาทเร็ว ๆ นี้แหง ๆ…
ก็ชัดเจนว่า มีการเข้ามาซื้อ เพื่อดันราคา ซึ่งถ้าดูจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น คงไม่มีใครขายแน่ ๆ…เชื่อขนมกินได้เลย
สาเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าว มาจากการมี SENA เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 35.35% ซึ่งโจทย์ของ SENA จะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้ JSP…
ในขณะที่ JSP มี 26 โครงการที่รอการพัฒนา มูลค่ารวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ 23 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 2–3 โครงการ…ซึ่งเป็นแวลูที่ซ่อนอยู่..!!
โดยก่อนหน้านี้ JSP มีข้อจำกัดในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ เพราะถ้าไปดูสถานะการเงินค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2564 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดติดกระเป๋าอยู่แค่ 50.54 ล้านบาท แต่มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีสูงถึง 1,399.07 ล้านบาท แถมมีขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรปาไป 691.91 ล้านบาทอีกต่างหาก
ครั้นจะไปกู้เงินแบงก์มาพัฒนาโครงการ คงไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม อาจต้องแบกภาระต้นทุนดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ถ้าจะออกหุ้นกู้ ก็ไม่มีเครดิตเรทติ้ง ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพง
แหม๊…น่าเสียดาย มีของดี แต่ไม่มีแรงทำซะงั้น..!?
(ก็ไม่รู้ด้วยเหตุผลนี้หรือเปล่าน้อ..? จึงถูกบีบให้ขายหุ้นในราคามีดิสเคาน์ แต่ก็ไม่ต่ำกว่าราคาทุนที่ 0.50 บาท ซึ่งเจ้าของเดิมก็ไม่ขาดทุน ส่วน SENA ได้ซื้อของถูก …อย่างน้อยก็วิน–วิน กันทั้งสองฝ่ายแหละน่า)
ดังนั้นหลังจาก SENA เข้ามาแล้ว สิ่งที่ต้องทำ คือ ดันโครงการที่ค้างท่ออยู่ของ JSP ให้แล้วเสร็จ โครงการไหนที่สร้างเสร็จแล้ว ก็รีบขาย ส่วนโครงการไหนที่กำลังก่อสร้าง ก็เร่งให้เร็วขึ้น จะได้ขายได้เร็วขึ้น…เท่ากับว่าแวลูของ JSP ก็น่าจะดีขึ้น..!!
ทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น JSP แทนที่จะซื้อ SENA เพราะเชื่อว่า JSP ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว…ซึ่งในแง่ราคาหุ้น JSP มีความน่าสนใจและมีอัพไซด์มากกว่า SENA จึงเกิดปรากฏการณ์ไล่ราคากันเมามันส์ เพื่อขานรับการกลับมาของ JSP..!!
ขณะที่ในมุมของ SENA ก็ไม่เสียหายอะไร แถมจะเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ กรณีไม่มีใครขายหุ้น ก็โยกเงินที่เตรียมไว้เทนเดอร์ไปใช้พัฒนาโครงการของ JSP แทน เมื่อโครงการพัฒนาเสร็จ แล้วขาย ก็รับรู้รายได้และกำไรตามสัดส่วนการถือหุ้น ส่วนกรณีที่ราคาหุ้น JSP ปรับขึ้นต่อเนื่อง SENA ก็ได้ประโยชน์จากแคปปิตอลเกน…
เรียกว่า ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องทีเดียว…
แต่ถ้า SENA ต้องการจะรวบหัวรวบหาง JSP จริง ๆ งานนี้เห็นที ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ต้องอัพราคาเทนเดอร์ใหม่ซะแล้วกระมัง..!!
…อิ อิ อิ…