ECB ส่งสัญญาณขยายมาตรการ QE กระตุ้นการเติบโตยูโรโซน
นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุเมื่อวานนี้ว่า ECB จะทำการทบทวนในเดือนธ.ค.เพื่อพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุวานนี้ (22 ต.ค.) ว่า ECB จะทำการทบทวนในเดือนธ.ค.เพื่อพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้
การแถลงดังกล่าวของนายดรากีมีขึ้น หลังจากที่ ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ นายดรากีกล่าวว่า ECB จะยังคงตรึงวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน และย้ำว่า ECB อาจตัดสินใจขยายเวลาการใช้มาตรการ QE ให้นานกว่าเดือนก.ย.2016 ที่กำหนดไว้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของยูโรโซน และหนุนให้อัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 2%
ทั้งนี้ ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมาย โดยECB เริ่มต้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในวันที่ 9 มี.ค. โดยหวังว่าการอัดฉีดเม็ดเงินดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน และหนุนอัตราเงินเฟ้อ
ขณะที่ ECB ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. คิดเป็นวงเงินรวม 1.1 ล้านล้านยูโร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะอัดฉีดเม็ดเงินใหม่ๆเข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศยูโรโซนที่กำลังซบเซาลง และจัดการกับภาวะเงินฝืด และอัตราว่างงานในยูโรโซน โดย ECB จะซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ในระยะกลาง