CGH มั่นใจปีนี้โตต่อเนื่อง ดัน “พาย” ลุยสินทรัพย์ดิจิทัล ลุ้น “BEYOND” เทิร์นอะราวด์
CGH มั่นใจปีนี้โตต่อเนื่อง ดันแอป "พาย" ลุยสินทรัพย์ดิจิทัล ตอบโจทย์ลูกค้าซื้อขายสินทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศบนแพลตฟอร์ม ลุ้น “BEYOND” เทิร์นอะราวด์ รับท่องเที่ยวฟื้นตัว
นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGH เปิดเผยกับ“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 20 ม.ค.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้
ภาพรวม CGH ปี 2565 ทิศทางจะปรับเปลี่ยนไปอย่างไร
CGH ยังดำเนินธุรกิจอย่างปกติคงต่อยอดจากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากบริษัทที่ลงทุนมีผลประกอบการที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในเครือข่ายของบริษัทฯ ยังมีในกลุ่มของ BEYOND ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการปรับตัวและแปลงโครงสร้างจากการเป็นธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทนมาเป็นธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม ซึ่งปัจจุบันถือครองโรงแรม 2 โรงแรม อยู่ที่ 75% โดยในไตรมาส 1 มีแผนจะลงทุนให้ครบ 100%
อีกทั้งหากเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนเริ่มดีขึ้น คาดว่า BEYOND จะเทิร์นอะราวด์ค่อนข้างดี และจะเป็นปัจจัยบวกให้กับบริษัทฯ ส่วนกลุ่มบริษัท คริปโตมายด์ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในปีที่ผ่านมานั้นเพิ่งได้ไลเซนส์จาก ก.ล.ต. เพื่อบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับลูกค้า ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
สำหรับปี 2565 CGH วางบริษัทไหนเป็นเรือธงสำคัญที่จะขับเคลื่อนผลประกอบการ
ชูเรือธงเป็น บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ซึ่งได้มีแนวทางจะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (Pi Securities Public Company Limited) โดยมีชื่อย่อว่า “PI” หรือ “พาย” สำหรับเหตุผลการทำรีแบรนด์นั้นเพื่อจะ Launch แพลตฟอร์มอันใหม่ที่จะไปแข่งขันในยุคดิจิทัล เนื่องจากว่า Functionality ค่อนข้างดีและใช้งานง่าย โดยสามารถให้ลูกค้าลงทุนในโปรดักส์หลากหลายได้ และสามารถใช้ประโยชน์จาก Wallet ของบริษัทฯ เพื่อซื้อขายสินทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็สามารถทำรายการได้ทั้งหมดบนออนไลน์ภายใต้แอปพลิชันนี้
ภาพรวมปี 2565 จะได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องหรือไม่
มั่นใจว่าแอปพลิเคชันที่จะ Launch น่าจะตรงกับความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ซึ่งเชื่อว่าสิ่งที่เตรียมการเป็นเวลา 1 ปีนั้น จะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้า โดยจะเป็นสิ่งที่ทำให้กลุ่มเติบโตต่อไปได้ ส่วน BEYOND คาดจะได้รับประโยชน์หากการท่องเที่ยวฟื้นตัว