LALIN พุ่งแรง 4% โบรกฯ เคาะซื้อ ลุ้นวิ่งเป้า 12 บ. จับตาปี 65 กำไรฟื้น-ปันผลสูง
LALIN พุ่งแรง 4% ราคาแตะ 10.50 บ. โบรกฯ เคาะซื้อ ลุ้นวิ่งเป้า 12.10 บ. จับตาปี 65 กำไรฟื้น รับมาตรการกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัยจากภาครัฐ-ปันผลสูง 6%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN ล่าสุด ณ เวลา 12:20น. อยู่ที่ 10.50 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.96% สูงสุดที่ 11.50 บาท ต่ำสุดที่ 10.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 111.62 ล้านบาท
ทั้งนี้บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2565 อยู่ที่ 12.10 บาท จากผลการดำเนินงานในอนาคตที่ยังคงได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัยจากภาครัฐรวมทั้งมีแนวโน้มที่ภาครัฐจะขยายขอบเขตของมาตรการช่วยเหลือให้กว้างมากขึ้นซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทต่อไป
ขณะที่ผลการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2559– 2563 กำไรสุทธิมี CAGR 28%) มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งปัจจุบันมี D/E เพียง 0.63 เท่า และมีการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องทุกปี โดยให้Yield เฉลี่ย 6% ต่อปี (Payout Ratio 40%)
ทั้งนี้คาดว่า LALIN จะมีกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 4/2564 ที่ 347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 9.1% เมื่อเทียบจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากรายได้จากการโอนที่เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และลดลง 4.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/2563 มีการแร่งโอนเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนค่าโอน และค่าจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทก่อนที่มาตรการกระตุ้นดังกล่าวจะหมดในวันที่ 25/12/2020 (อย่างไรก็ตามครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นดังกล่าวอีกครั้งในเดือนก.พ. 2564 จนถึง ธ.ค. 2564 และมีการขยายเวลาออกไปเป็นธ.ค.2565 ในการประชุมครม.ช่วงวันที่ 21/12/21 ที่ผ่านมา)
โดยคาดว่าจะยังมีการเร่งโอนในช่วงต้นธ.ค. 2564 ก่อนที่โครงการจะหมดอายุสิ้นปีก่อนมีการประกาศต่ออายุมาตรการดังกล่าว ทำให้ยอดโอนน่าจะเพิ่มขึ้นได้เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตามมองว่า Demand และ Supply ในที่อยู่อาศัยที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท น่าจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการใช่สิทธิ์มาอย่างต่อเนื่องในช่วงระหว่างปี
สำหรับปี 2565 คาดกำไรสุทธิที่ 1,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยคาดรายได้จากการโอนที่ 7,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน กำไรสุทธิที่เติบโตต่ำกว่ารายได้จากการโอนเป็นผลจากคาดการณ์ว่าอัตรากำพไรขั้นต้นจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 38.7% ต่ำกว่าคาดการณ์ของปี 2564 ที่ระดับ 38.9% จากแนวโน้มต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเราคาดว่าสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะยังอยู่ในสัดส่วนเดิมที่ระดับ 12.8% ของรายได้จากการโอนเท่ากับคาดการณ์ปี 2564