TK มั่นใจพอร์ตสินเชื่อปี 65 โตเด่น-ลุยจำนำทะเบียนรถเต็มสูบ หลังคว้า 2 ไลเซนส์ใหม่
TK มั่นใจพอร์ตสินเชื่อปี 65 โตเด่น ลุยจำนำทะเบียนรถเต็มสูบ หลังคว้า 2 ไลเซนส์ "สินเชื่อบุคคลจำนำทะเบียน-สินเชื่อบุคคล" ซึงดอกเบี้ยอยู่ที่ 24-25% ต่อปี ชูจุดแข็งเงินสดล้น 2,500 ล้านบาท และ D/E เพียง 0.2 เท่า
นายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 25 ม.ค. 2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้
พัฒนาการของ TK รอบปี 2564 เป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับธุรกิจ TK ปัจจุบันให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับไลเซนส์ “นาโนไฟแนนซ์” จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาแล้วหลายปีและได้มีการทดลองปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์แล้วประมาณ 10 สาขา
ขณะที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีฐานลูกค้าประมาณ 3 ล้านราย และมีประวัติการชำระเงินที่ดี ทั้งนี้บริษัทขอไลเซนส์ “นาโนไฟแนนซ์” เนื่องจากต้องการจะช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการขอสินเชื่อเพื่อไปใช้จ่ายอย่างอื่น โดยภาพรวมสินเชื่อปล่อย “นาโนไฟแนนซ์” มีประมาณ 50 รายทั่วประเทศมีสินเชื่อรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งจากสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน และการแพร่ระบาดโควิด-19 กระทบการส่งออก และการท่องเที่ยวยิ่งทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างหนัก บริษัทจึงมองว่าลูกค้าของบริษัทนอกจากจะซื้อรถใหม่ก็น่าจะมีการขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและสินเชื่อส่วนบุคคล
การได้รับ 2 ไลเซนส์ใหม่ (ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลฯ) จะสร้างมูลค่าให้ TK ได้อย่างไร?
โดยล่าสุดบริษัท ทีเค เงินทันใจ จำกัด บริษัทย่อยที่ TK ถือหุ้น 99.99% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ปัจจุบันประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano Finance) และได้รับใบอนุญาตเพิ่มเติมจากธปท.ให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ประกอบด้วย 1. สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน และ2. สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน
ภายหลังการได้ 2 ไลเซนส์ใหม่ดังกล่าวบริษัทคาดว่าจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีอยู่แล้ว 3 ล้านราย จะมีโอกาสมาใช้บริการเพิ่มเติมไม่ว่า สินเชื่อบุคคลจำนำทะเบียน และสินเชื่อบุคคล ซึ่งดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 24-25% ต่อปี โดยคาดว่าสินใหม่ดังกล่าวช่วยต่อยอดธุรกิจเดิมได้ แน่นอนโดยปกติปล่อยสินเชื่อสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์มือหนึ่งลูกค้าอยู่แล้ว หากลูกค้าเดิมที่ผ่อนรถหมดและต้องการใช้เงินก็สามารมาเป็นลูกค้าเพื่อใช้บริการต่อเนื่องได้เนื่องจากเรามีประวัติการผ่อนชำระที่อยู่แล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่มีทะเบียนจำเป็นหลัก
สำหรับพอร์ตสินเชื่อปัจจุบันแบ่งเป็นสินเชื่อรถยนต์สัดส่วนประมาณ 5% เพราะบริษัทไม่มีนโยบายแข็งขันด้านราคามากนัก โดยเน้นปล่อยสินเชื่อจักกรยานยนต์ และเน้นปล่อยในประเทศกัมพูชา และสปป.ลาว ซึ่งในพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 95%
วางเป้าหมายทางธุรกิจปี 2565 ไว้อย่างไรบ้าง
สำหรับพอร์ตสินเชื่อในปีที่ผ่านมาคาดว่าผ่านพ้นช่วงต่ำสุดไปแล้ว ส่วนในปี 2565 หาก “โอมิครอน” ไม่รุนแรงคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ อย่างในกัมพูชาตั้งแต่ปล่อยสินเชื่อมาเติบโตดีมาตลอดมีเพียงปี 2563 หดตัว แต่แนวโน้มปี 2564 เริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง ส่วนสปป.ลาวปี 2564 หดตัวเล็กน้อย แต่การชำระเงินของกัมพูชาและลาวถือว่าดีขึ้นในปีนี้ โดยมั่นใจว่าปีนี้พอร์ตสินเชื่อจะกลับมาเติบโตดีตามเศรษฐกิจโดยรวม
ตัวเลขอัตรากำไรสุทธิที่ก้าวกระโดดขึ้นเกือบเท่าตัว เป็นผลมาจากปัจจัยอะไรบ้าง
ด้านอัตรากำไรสุทธิที่เติบโตดีอย่างในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ระดับ 23% จากปี 2563 อยู่ที่ระดับ 14.52% ส่วนใหญ่มาจากการลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดน้อยลง อีกทั้งหนี้สูญที่ตัดไปกลับมาเก็บได้มากขึ้น ส่วนปี 2565 หากกลับมาโตระยะสั้นไม่โดดเด่นเหมือนปีที่ผ่าน แต่ในระยะกลางและยาวจะเติบโตดีจากพอร์ตสินเชื่อโตขึ้น
เนื่องจากขณะนี้เงินสดมากเกินไปโดยเงินสดสูงสุดในประวัติการณ์ที่ระดับ 2,500 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E เพียง 0.2 เท่า ดังนั้นหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวดี บริษัทพร้อมนำเงินสดที่มีอยู่ในมือลุยธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล หลังได้รับ 2 ไลเซนส์ใหม่ และขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศทันที โดยไม่จำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนหรือกู้ยืมในช่วง 1-2 ปีนี้