SCI บวกแรง 9% นิวไฮรอบ 3 เดือน มั่นใจผลงานปีนี้โตแกร่ง-โชว์แบ็กล็อกแน่น 1.5 พันลบ.

SCI บวกแรง 9% นิวไฮรอบ 3 เดือน มั่นใจผลงานปีนี้โตแกร่ง-โชว์แบ็กล็อกแน่น 1.5 พันลบ. พร้อมลุยร่วมประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนเฟส 2 เต็มสูบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้(8 ก.พ.65) ราคาหุ้นบริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน)  หรือ SCI ณ เวลา 16:12 น. อยู่ที่ระดับ 2.18 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 9.00% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 55.87 ล้านบาท ราคาหุ้นแรงในรอบ 3 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.22 บาท เมื่อวันที่ 26 ต.ค.64

โดยก่อนหน้า(28 ธ.ค.64) นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCI เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2565 คาดจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ถือเป็นการกลับเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ จากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันมีประมาณ 1,500 ล้านบาท และมีแผนที่จะเข้าประมูลโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนน่าจะเริ่มเปิดประมูลงานมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และเริ่มมีการคลายล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการลงทุน

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสในการลงทุนด้านพลังงานทดแทนผ่านบริษัทร่วม เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

“เรามีความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเฟส 2 ที่เตรียมรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชนเพิ่มในปี 2565 หลังจากเราได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการนำร่องทั้งหมด 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 11 เมกะวัตต์ (MW) และมั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าโครงการร่วมกับเครือข่ายเกษตรกร และจัดหาวัตถุดิบที่นำมาใช้สำหรับโรงไฟฟ้าชุมชนในแต่ละพื้นที่ตามแผนงานที่วางไว้” นายเกรียงไกร กล่าว

ทั้งนี้ในส่วนของแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ หรือ PDP2018 มีแผนรับซื้อไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเฟส 2 จำนวน 400 เมกะวัตต์ ในปี 2565

โดยล่าสุดวันนี้(8ก.พ.65) นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะเปิดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เฟส 2 ในปี 65 ปริมาณรับซื้อรวม 400 เมกะวัตต์

โดยอยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดปริมาณและพื้นที่ (Zoning) เพาะปลูกพืชพลังงานที่เหมาะสม เช่น เป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกพืชเศรษฐกิจ เป็นพื้นที่ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อ เสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า แต่ต้องไม่เป็นภาระกับระบบโครงข่ายพลังงานด้วย

นอกจากนี้กระทรวงพลังงานจะร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อเพิ่มมูลค่าพืชพลังงาน โดยนำผลผลิตของการปลูกพืชพลังงานไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ในรูปแบบโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่

สำหรับแผนการดำเนินงานโรงไฟฟ้าชุมชน ในเฟสที่ 2 นี้ ปัจจุบันกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างวิเคราะห์ประเมินผลโครงการนำร่องเฟสแรก ที่เปิดรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบ 150 เมกะวัตต์ เพื่อนำมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการขยายผลในระยะที่ 2 พร้อมกำหนดรูปแบบเป้าหมายการดำเนินโครงการ ได้แก่ กำหนดพื้นที่ จัดหาเทคโนโลยี ส่งเสริมการแปรรูป จัดเตรียมเชื้อเพลิง การสร้างรายได้จากการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ประเมินต้นทุน กำหนดราคารับซื้อเชื้อเพลิง ตลอดจนกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าและโมเดลทางธุรกิจที่เหมาะสม คาดว่า ปลายปี 65 จะสามารถเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนของโครงการใน เฟสที่ 2 ได้ และอาจให้ยื่นข้อเสนอโครงการฯได้ ในช่วงต้นปี 66

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เฟส 2 อาจใช้วิธีประมูลแข่งขันราคาเช่นเดียวกับเฟสแรก ส่วนราคารับซื้อไฟฟ้าคาดว่าจะใกล้เคียงกับเฟสแรก โดยไตรมาส 3/65 จะทราบหลักเกณฑ์โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเฟส 2 ที่ชัดเจนได้

Back to top button