“หุ้นเอเชีย” เปิดบวก! ตามดาวโจนส์ปิดพุ่ง 300 จุด รับแรงหนุนหุ้นกลุ่มแบงก์

“หุ้นเอเชีย” เปิดบวก! ตามดาวโจนส์ปิดพุ่ง 300 จุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวขึ้น หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุด 1.965%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนบวก ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (8 ก.พ.2565) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2562 ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นแอมะซอน และแอปเปิล

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,488.65 จุด เพิ่มขึ้น 204.13 จุด หรือ +0.75%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,727.34 จุด เพิ่มขึ้น 397.85 จุด หรือ +1.64% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,450.82 จุด ลดลง 1.81 จุด หรือ -0.05 จุด

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.965% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2562 ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยปัจจัยดังกล่าวหนุนให้หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น

ส่วนหุ้น Commonwealth Bank of Australia (CBA) ทะยานขึ้น 4.73%, หุ้น Westpac พุ่งขึ้น 1.88%, หุ้น National Australia Bank เพิ่มขึ้น 0.83% และหุ้น Australia and New Zealand Banking Group เพิ่มขึ้น 0.7%

ขณะเดียวกันหุ้นซอฟต์แบงก์ยังเพิ่มขึ้น 1% หลังบริษัทเผยวานนี้ว่า จะนำบริษัท อาร์ม (Arm) ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมชิปประมวลผลในเครือ เข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ภายในสิ้นปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. 2566 หลังจากที่ข้อตกลงซื้อขายธุรกิจอาร์มมูลค่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้กับบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ต้องถูกล้มเลิกไป เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐ, อังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ได้คัดค้านและแสดงความกังวลอย่างมากถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

ทั้งนี้นักลงทุนยังคงจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะพุ่งขึ้น 7.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2525

Back to top button