“ศบค.” พบผู้ติดเชื้อ “โควิด” ใหม่ 16,330 คน เสียชีวิต 25 ราย
“ศบค.” พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 16,330 ราย ยอด ATK อีก 8,354 เสียชีวิต 25 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,330 ราย ประกอบด้วย
1.ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 15,809 ราย
2.จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 240 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 131 ราย
3.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 150 ราย
ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 8,354 ราย และเสียชีวิต 25 ราย
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 2,577,445 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 9,205 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 22,412 ราย
ด้าน นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 87.29% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 80.22% โดยเมื่อวานนี้ทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 2,267,864 คน ตายเพิ่ม 10,324 คน รวมแล้วติดไปรวม 408,596,943 คน เสียชีวิตรวม 5,818,626 คน
สำหรับประเทศไทย การระบาดยังรุนแรง กระจายไปทั่ว และเป็นขาขึ้น ถัดจากนี้ไปจำนวนคนติดเชื้อที่มากขึ้น ทั้งที่ตรวจ ไม่ได้ตรวจ และไม่อยากตรวจ อาจทำให้เห็นปัญหาด้านสังคมมากขึ้นได้ ไม่ใช่เพียงแง่เศรษฐกิจเท่านั้น
ทั้งนี้ จากรายงานวิชาการของ UK HSA เกี่ยวกับ SARS-CoV-2 variants of concern andvariants under investigation in England ฉบับที่ 36 ล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ได้อัพเดตความรู้โควิด-19 สายพันธุ์ Omicron มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ Omicron แม้ในผู้ใหญ่จะพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงราว 50% และความเสี่ยงในการเสียชีวิตลดลงราว 60% เมื่อเทียบกับระลอกเดลตา แต่กลับพบว่า “เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี” นั้นมีอัตราการป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไม่แตกต่างจากระลอกเดลตา “เรื่องนี้จึงสำคัญมาก และเน้นย้ำให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลานให้ดี”
2.Omicron สายพันธุ์ BA.2 ที่ระบาดต่อจากสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.1 ซึ่งครองโลกอยู่ในปัจจุบันนั้น พบว่ามีอัตราการแพร่ระบาดได้เร็วกว่า BA.1 ที่น่าสนใจคือ ค่าเฉลี่ยของระยะเวลาตั้งแต่คนแพร่เชื้อเริ่มมีอาการ จนถึงคนที่รับเชื้อเริ่มมีอาการ (serial interval) ของเชื้อสายพันธุ์ BA.2 นั้นสั้นกว่า BA.1 โดย BA.2 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.27 วัน (ช่วงความเชื่อมั่น 3.09-3.46 วัน) และ BA.1 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.72 วัน (ช่วงความเชื่อมั่น: 3.62-3.80 วัน)
ดังนั้น เชื้อสายพันธุ์ Omicron นั้น หากคนแพร่เชื้อเริ่มมีอาการ แล้วแพร่ให้คนอื่นๆ โดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่รับเชื้อมามักจะเริ่มมีอาการหลังจากนั้นประมาณ 3-4 วัน