DOHOME เด้ง 5% ลุ้นยอดขาย “นิวไฮ” ดันกำไร Q4/64 โต 81% โบรกฯชูเป้า 35 บ.

DOHOME เด้ง 5% ลุ้นยอดขาย “นิวไฮ” แตะ 7.15 พันลบ. จาก SSSG ที่บวกถึง 38 - 40% ดันกำไร Q4/64 โต 81% แตะ 390 ลบ. โบรกฯแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (15 ก.พ. 2565) ราคาหุ้นบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ณ เวลา 14:47 น. อยู่ที่ระดับ 22.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือ 5.21% โดยทำจุดสูงสุดที่ 22.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 21.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 206.44 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ก.พ. 2565) โดยทางฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2564 ที่ 390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน ซึ่งคาดว่ายอดขายจะทำ New high ที่ 7.15 พันล้านบาท จาก SSSG ที่บวกถึง 38 – 40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม GPM คาดว่ายังคงลดลงมาที่ 17.50% (จากไตรมาส 3/2563 = 19.60%) จาก (1) มีค่าใช้จ่ายทางบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายการขนส่งระหว่างสาขาจากการบริหารคลังสินค้าเอง (2) ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าสินค้าสูงขึ้นจากค่า Shipping freight ที่สูงขึ้น (3) จัด Sale ลดราคาสินค้าที่เป็น Slow moving เพื่อเคลียสินค้าช่วงสิ้นปี

สำหรับ SSSG ในไตรมาส 1/2565 ยังคงเติบโตได้โดดเด่นแม้ไตรมาส 1/2564 จะเริ่มเป็นฐานสูง โดยจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน SSSG เพิ่มขึ้น 26 – 28% ทำให้คาดว่ายอดขายจะยังทำ New high ได้ในไตรมาส 1/2565 นอกจากนี้ GPM เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นมาที่ระดับ 18 – 19% จาก Product mix ที่ดีขึ้น สัดส่วนยอดขายวัสดุก่อสร้างลดลง

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 2.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยคาดรายได้ที่ 3.20 หมื่นล้านบาท จากการขยายสาขา 5 สาขา ซึ่งจะเริ่มเปิดสาขาแรกในไตรมาส 1/2565 นี้ และ SSSG ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคาด GPM ที่ 20.20% โดย Target GPM ของบริษัทฯ อยู่ที่ 18 – 21% จากการปรับ Product mix การเจรจากับ Supplier การเพิ่มสินค้า House Brand และการ Utilize DC มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประมาณการอาจมี Downside หากราคาเหล็กปรับตัวลง และสัดส่วนยอดขายวัสดุก่อสร้างยังคงสูงเมื่อเทียบกับยอดขายรวม

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 35.00 บาท แนะนำ “ซื้อ” อิงปี 2565 ค่า PER ที่ 34.50 โดยคาดว่า DOHOME จะมีการเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องในระยะยาวด้วย EPS ที่มี CAGR (ปี 2564-2566) เพิ่มขึ้น 21% สูงกว่ากลุ่มมาก หากเทียบกับ GLOBAL ที่เพิ่มขึ้น 9% และ HMPRO ที่เพิ่มขึ้น 16%

Back to top button