ORI สปินออฟ “วัน ออริจิ้น” เข้าตลาดปลายปี 65 ปูพรมรับนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน
ORI เตรียมสปินฯ “วัน ออริจิ้น” เข้าตลาดปลายปี 65 รับกระแสนักท่องเที่ยว 10 ล้านคน ล่าสุดทุ่ม 1,000 ล้านบาท ซื้อโรงแรมแบรนด์ “ไอบิส” 3 แห่ง ทำเลท่องเที่ยวชั้นนำ ภูเก็ต-หัวหิน-กระบี่ จาก ERW เชื่อมั่นศักยภาพแบรนด์หนุนอัตราเข้าพักโตแรงหลังการท่องเที่ยวฟื้นตัวจากโควิด เสริมแกร่งรายได้ประจำ ORI ระยะยาว
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียม “สปินออฟ” นำบริษัทย่อยอย่าง บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเร็วๆนี้ โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 และหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นก็อาจสามารถเข้าตลาดได้เร็วสุดในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 อย่างไรก็ตามแต่หากสถานการณ์โควิด-19 ไม่ดีขึ้นก็อาจเข้าตลาดในช่วงต้นปี 2566
สำหรับการนำ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโควิด-19 แต่อย่างไรก็ดีสถานการณ์การท่องเที่ยวจะเริ่มดีขึ้น หากอ้างอิงข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าปี 2565จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยราว 5-8 ล้านคน ขณะที่ทางออริจิ้นคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวราว 8-10 ล้านคน หลังจากช่วงปี 2564 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอยู่ที่ราว 3.5-4 แสนคน
ด้าน นายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำในเครือ ORI เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการโรงแรมแบรนด์ “ไอบิส” (ibis) โรงแรมระดับบัดเจ็ตโฮเทล ภายใต้เชนแอคคอร์ (Accor) รวม 3 แห่ง จำนวนห้องพักรวม 664 ห้อง มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท จากบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW
สำหรับโรงแรมทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.โรงแรมไอบิส ภูเก็ต กะตะ (ibis Phuket Kata Hotel) โรงแรมขนาด 5 ชั้น 258 ห้อง 2.โรงแรมไอบิส หัวหิน (ibis Hua Hin) ขนาด 6 ชั้น 200 ห้อง และ 3.โรงแรมไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง (ibis Styles Krabi Ao Nang) ขนาด 5 ชั้น 206 ห้อง โดยโรงแรมทั้ง 3 แห่ง ยังมีห้องอาหาร สระว่ายน้ำ และห้องสำหรับจัดงานประชุมและสัมมนา ให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยบริษัทจะเข้าบริหารจัดการโรงแรมทั้ง 3 แห่งภายในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้
“การเข้าลงทุนในโรงแรมแบรนด์ไอบิสทั้ง 3 แห่งนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้วัน ออริจิ้น เติบโตอย่างรวดเร็วในหลายด้าน ทั้งการเพิ่มจำนวนโครงการที่สามารถรับรู้รายได้ทันทีอย่างรวดเร็ว การเพิ่มพอร์ตฟอลิโอในเซ็กเมนท์ใหม่อย่างกลุ่มบัตเจ็ทโฮเทล และการเพิ่มโอกาสการบุกหัวเมืองท่องเที่ยวที่เป็นทำเลแม่เหล็กที่มีศักยภาพดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากเดิมที่เราเน้นพัฒนาโครงการแถบกรุงเทพฯ และอีอีซี” นายปิติพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายปิติพงษ์ กล่าวอีกว่า ภูเก็ต หัวหิน และกระบี่ ยังคงเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างชาติ ซึ่งเชื่อมั่นว่าหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายจนใกล้เคียงภาวะปกติ อัตราการเข้าพักภายในโรงแรมแต่ละแห่งจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลับมาสู่ระดับปกติได้ภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านรายได้ประจำให้กับ ORI ในระยะยาว ตามแผนดำเนินการระยะ 5 ปีที่บริษัทฯ ตั้งไว้
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงมองโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านรูปแบบการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ด้วยตัวเอง การเข้าซื้อกิจการ และมีแผนนำทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT) รวมถึงมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2566