JMART ลั่นกำไรปีนี้พุ่ง 50% ชู SINGER เรือธงเป้าโต 75% ลุยขยายธุรกิจ
“เจมาร์ท” เผยการเพิ่มทุนเสริมแกร่งการเงินทั้ง “JMART- JMT- SINGER” หวังขยายธุรกิจใหม่หนุนการเติบโตต่อเนื่องเน้นทำกำไรปี 65 โต 50%
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMARTเปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
มูลค่าของการเพิ่มทุน
สำหรับเงินลงทุนเข้ามาใหม่จากการเพิ่มทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท จะเริ่มทำงานนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป โดยจะมีการกระจ่ายเงินลงทุนดังกล่าวแบ่งออกไป 3 ส่วน โดยในส่วนที่ 1 แบ่งให้ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART จำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปเพิ่มทุนในตัว JMT และ SINGER และในส่วนที่เหลือจะนำเงินลงทุนในธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ
ขณะที่ส่วน 2 แบ่งให้ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)หรือ JMT จำนวน 10,000 ล้านบาท โดยจะนำเงินไปซื้อหนี้เสียมาบริหาร รวมไปถึงการสนับสนุน JV เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการงานติดตามหนี้และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ที่ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทลูกของ KBANK ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะทยอยรับรู้รายได้อย่างชัดเจนในช่วงครึ่งแรกปี 2565
จากนั้นส่วนที่ 3 แบ่งให้บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER จำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มเสริมความแข็งแกร่งและสนับสนุนการ Synergy ร่วมกับ JMART Group และ BTS Group และพันธมิตร ที่เข้ามาเติมเต็ม Ecosystem และจะได้รับเงินอีกก้อนหนึ่งจากการ Spin-off ตัว SCT เข้ามาอีกด้วย ซึ่งการเพิ่มทุนดังกล่าวทั้งหมดจะส่งผลให้ฐานการเงินของทุกธุรกิจมีความแข็งแกร่ง
ทิศทางธุรกิจในปี 2565
การดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ J Curve ที่ตั้งเป้ากำไรสุทธิเติบโตแบบ Exponential Growth หรือไม่ต่ำกว่า 50% โดยมี SINGER เป็นหัวเรือหลัก จากการตั้งเป้ากำไรเติบโตในระดับ 75% ซึ่งต้องไม่ลืมว่าทางบริษัทได้มีการ CV ร่วมกับ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ในการสร้างผลิตภัณฑ์ solar rooftopซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกความสนใจได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจของ JMT ที่ในปี 2564 ที่ผลประกอบเติบโตสูงสุดเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท และจะยังคงเติบโตต่อจากนี้ รวมไปถึงเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของ JMB ในปี 2564 ที่ผ่านมา ด้วยการผนึกกำลังกับบริษัทย่อยเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น SINGER , IT Juctiuon หรือ Synergy shop ของ JMT ส่งผลให้มีกำไรสุทธิที่เติบโตมากกว่า 139% เทียบกับปีก่อน ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันให้บริษัทเติบโตเป็นไปตามกลยุทธ์ J Curve ที่วางแผนไว้ และในปีนี้อาจมีการ Synergy เพิ่มขึ้นก็เป็นได้
บทบาทของ KBJ กับ SINGERในปี 2565
สำหรับบริษัท เคบี เจ แคปิตอล จำกัด หรือ KBJ จะเป็นธุรกิจการบริการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเหมาะสมกับฐานลูกค้าที่มีสลิปเงินเดือน ขณะที่ SINGER ที่มีการบริการคล้าย ๆ กันแต่จะเหมาะสมกับฐานลูกค้าที่เป็นประชาชนทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระ ที่อยู่ต่างหัวเมือง/ต่างอำเภอ โดยทั้ง 2 บริษัทนี้จะสามารถบริการลูกค้าได้อย่างสอดคล้องกับฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน
ภาพการดำเนินธุรกิจร่วมกันของ JMT กับ J
สำหรับ J โดยพื้นฐานจะประกอบธุรกิจเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เช่าซื้อและเช่าขาย กล่าวคือบริษัทฯ จะสร้าง Community Mall เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้ามาเช่าพื้นที่ในการประกอบกิจการ แต่จุดหลักที่ J จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษนั่นก็คือ ธุรกิจการขายบ้านมือ 2 ซึ่งมาจากการที่ JMT ไปกวาดซื้อมาจากธนาคารแหล่งต่าง ๆ ทั้งนี้จะทำให้ J มีรายได้ที่เติบโตจากธุรกิจดังกล่าว และใน 3-5 ปีข้างหน้าจะเป็นเทรนต์ที่น่าสนใจ โครงการบ้านพักผู้สูงอายุ SENERA Senior Wellness ข้างโครงการ JAS Green Village คู้บอน ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในต้นปี 65 บนที่ดิน 7 ไร่ จำนวนห้องพัก 140 ห้อง มูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการบ้านพักผู้สูงอายุแห่งแรกของบริษัท