SET สัปดาห์นี้ Sideways Down จับตาเงินเฟ้อก.พ.สหรัฐฯ-ผู้ติดเชื้อยังสูง
“โนมูระฯ” ชี้ SET สัปดาห์นี้ Sideways Down จับตาเงินเฟ้อก.พ.สหรัฐฯ 10 มี.ค.นี้-ผู้ติดเชื้อยังสูง กลยุทธ์แนะลงทุนในหุ้น 60% ชู MAKRO-BE8-TIDLOR เด่น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์หน้า (7-11 มี.ค.2565) แกว่งตัว “Sideways/Down” แนวต้าน 1,682-1,700 จุด รับ 1,658-1,645 จุด โดยจับตารายงานเงินเฟ้อเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ 10 มี.ค.นี้ Consensus คาดที่ 7.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.5% และการประชุม ECB 10 มี.ค. คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน แต่แนะติดตามมุมมองเศรษฐกิจ
ส่วนความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายหลังจากที่การเจรจาในรอบแรกยังไม่มีบทสรุป รัสเซียกลับมาโจมตียูเครนอีกครั้งขณะที่ข่าวไม่เป็นทางการ กล่าวว่า รัสเซียยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia ของยูเครนได้แล้ว ซึ่งเป็นโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป สะท้อนว่าทั้งสองประเทศยังไม่มีทีท่าจะตกลงกันได้ เป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Moody’s ปรับลด Credit rating รัสเซียถึง 6 notch สู่ B3 (HighlySpeculative,Junk Bond) จาก Baa3 (Lower Medium Grade)
ด้านราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุ 100 เหรียญ กระทบอะไรบ้าง บวกโดยตรง : กลุ่ม Energy โดยภาพรวมได้อัตรากำไรของธุรกิจต้นน้ำและstock gain ของโรงกลั่นหนุน ซึ่งเพียงพอชดเชยผลกระทบ spread ปิโตรเคมีที่ลดลงได้
ส่วนเป็นลบโดยตรง มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Utilities และกลุ่ม Aviation ลบทางอ้อม จากการที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งกระทบกับต้นของวัตุดิบ/สินค้า ได้แก่ Property, Contractor, Finance, Auto, Industrial Estate,Restaurant, Agro & Food, Electronics กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัด Healthcare, ICT, Banking, Hotel
ด้านตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังทรงตัวสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวเลข ATK ที่พุ่งทะลุ 4 หมื่นราย ทำให้สถานการณ์โดยรวมยังน่ากังวล ขณะที่ศบค.ประเมินว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อขณะนี้อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และคาดว่าจะพีคในช่วงกลางเดือนเม.ย. โดยจำนวนผู้ติดเชื้อคาดจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 หมื่นรายต่อวัน ก่อนที่จะค่อยๆลดลง แต่กรณีควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ดี อาจจะทำให้ลากยาวกว่าที่คาด
กลยุทธ์การลงทุน : ปัจจัยภายนอกยังมีแรงกดดัน ขณะที่ภายในถูกถ่วงด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อ คงคำแนะนำน้ำหนักถือหุ้น 60% ระยะสั้นเน้นLaggard(HMPRO, CPALL, MAKRO,BCPG, BCP, TIDLOR, ADVANC) กลุ่ม ตะวันออกกลางมี Wealth Effect จากราคาน้ำมัน(BDMS, BH. BCH) และกลุ่มฐานกำไรดี JMART, JMT, AP, BE8 ระยะยาวแนะ 2022FStock Picks : ADVANC AMATA GPSC KBANK KCE MAKRO SCB TIDLOR
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ MAKRO, BE8, TIDLOR โดย MAKRO ราคาเป้าหมาย 50 บาท หุ้น Laggard การปรับโครงสร้างหนุน synergy สู่ผู้นำธุรกิจ ส่วน BE8 ราคาเป้าหมาย 53 บาท : คาดกำไรปี2565 โตสูง +40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนธุรกิจทั้งในและตปท.โตดี ส่วนTIDLOR ราคาเป้าหมาย 44 บาท ทิศทางกำไรเข้าสู่จุดเติบโต + คุณภาพสินทรัพย์เหนือคู่แข่ง