เด้งเพื่อไปต่อ?
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามนี้เหมือนเป็นเกม “เดาทาง” มากกว่าเรื่องปัจจัย “พื้นฐาน” เพราะไม่มีใครรู้ความขัดแย้งจะจบลงเมื่อไหร่?
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามนี้เหมือนเป็นเกม “เดาทาง” มากกว่าเรื่องปัจจัย “พื้นฐาน” เพราะไม่มีใครรู้ความขัดแย้งจะจบลงเมื่อไหร่? และเท่าที่เห็นเหตุการณ์บางส่วน ณ เวลานี้ ทางฝั่งยูเครนก็เริ่มแบะท่าพร้อมถอยทุกกระบวนท่า หลังเห็นธาตุแท้ของมิตรสหายอเมริกาเป็นอย่างไร? จึงทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ความขัดแย้งดังกล่าวน่าจะหาทางยุติได้ในเร็ววันไงล่ะคะ
*ประกอบกับฝั่งยุโรปที่เข้าไปพัวพันเริ่มเดือดร้อนมากขึ้น และกำลังพยายามหาทางลงที่สวยงามกับทุกฝ่าย ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ทุกคนเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ “โมนิก้า” เลยเข้าใจเหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียเด้งกลับกันเป็นแถว และจังหวะนี้ก็เหมาะต่อการเข้าไปตะลุมบอนแบบสุดซอย เพราะเป็นระดับที่ดัชนีลงร่วม 100 จุด จึงทำให้ดาวไซด์ของตลาดหุ้นไทยต่ำมาก ๆ เจ้าค่ะ
*ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็อยากให้แฟนคลับทำความเข้าใจด้วยว่า ทุกครั้งที่มีความหวังต่อเรื่องอะไรก็ตาม..สุดท้ายมักกินแห้วเป็นประจำ เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า การวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,643.64 จุด บวกไป 24.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 แสนล้านบาท มันเป็นภาพของการ “เด้งเพื่อไป” หรือ “เด้งเพื่อลง” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ อาจนำไปสู่คู่ขัดแย้งรายใหม่ จึงไม่ควรชะล่าใจเป็นอันขาดนะจะบอกให้
*ยิ่งเห็นข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า อเมริกาพยายามต่อสายเพื่อพูดคุยกับ “UAE” และ “ซาอุฯ” ให้ช่วยเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันออกมาอีก โดยอีกฝั่งไม่รับสายของอันธพาลโลกแบบนี้ ยิ่งทำให้เห็นภาพของสถานการณ์ต่าง ๆ ยังมีความคลุมเครืออยู่ค่อนข้างเยอะ “โมนิก้า” จึงไม่กล้าฟันธงตลาดหุ้นไทยจะแรลลี่ยาว เพราะภาพที่เห็นมันเป็นเพียงการรีบาวด์ธรรมดา ๆ ตามปัจจัยบวกที่เกิดขึ้นในขณะนี้นะจ๊ะ
*โดยเฉพาะการเด้งขึ้นของหุ้นลูกอ๊อด AOT คือเรื่องที่อยากเม้าท์ถึงมากสุด เพราะในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยตกหนัก หุ้นตัวนี้กลับไม่กระทบเหมือนหุ้นตัวอื่น “โมนิก้า” เลยสงสัยว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 64.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.20 พันล้านบาท น่าเล่นตามน้ำจริงไหม? และเที่ยวนี้จะวิ่งผ่าน 66 บาทไหม? ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปจ้า!
*ส่วนรายที่ไม่ต้องดูอะไรทั้งสิ้น เพราะขึ้นตามอุตสาหกรรมอย่าง INOX กลายเป็นตัวเลือกหลักที่ขาลุยพูดถึงไม่ขาดปาก หลังราคานิกเกิลพุ่งขึ้นต่อเนื่อง จนทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เที่ยวนี้ต้องเกาะเทรนด์ให้ทัน! วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.61 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 21% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.92 พันล้านบาทแบบสบายใจ และมีลุ้นที่จะเห็นหุ้นไปต่ออีกวันค่ะ
*เมื่อบรรยากาศลงทุนเป็นใจให้ทุกคนลุยไม่ยั้ง PSL จึงฉวยโอกาสนี้ขึ้นตามเขาไปด้วย ยิ่งมีประเด็นค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น 5% ยิ่งกระตุ้นให้อารมณ์นักเล่นพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 19.90 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท เพราะในช่วงที่เขายิงกันตูมตาม หุ้นตัวนี้ก็พุ่งสวนหน้าตาเฉย พร้อมกับอ้างเหตุผลปิดน่านฟ้า ทำให้คนหันมาส่งของทางเรือมากขึ้นน่ะซี
*ในเมื่อต้องหาคำตอบจากเรื่องต่าง ๆ “โมนิก้า” ก็อยากให้นักเล่นลองหาเหตุผลที่ทำให้หุ้น TASCO ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 17.30 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 9.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 390 ล้านบาท มันย้อนแย้งกับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เดี๊ยนจึงอยากให้นักลงทุนประเมินกันเอาเองว่า การกระโจนเข้าเล่นเที่ยวนี้..เวิร์คไหม? เพราะในมุมที่เคยเห็นมาก่อนหน้า หุ้นตัวนี้ปัญหาเยอะ! ราคาหุ้นถึงจมปลักเป็นแรมปีไงล่ะคะ
*สำหรับจอมปั่นฟรีคิกอย่างหุ้น ZIGA สุดท้ายก็ไม่รอดสันดอนเหมือนกัน เพราะปัจจัยพื้นฐานไม่เอื้อให้เล่นต่อ แถมโปรเจกต์ที่เม้าท์ถึงก็เป็นเรื่องอนาคตล้วน ๆ “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 8.35 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 680 ล้านบาท เพราะมันเป็นช่วงของการเขย่าหุ้น เพื่อต้องการดูเชิงอีกฝั่งมีของเยอะไหม? ไม่เช่นนั้นจะโดนสาดใส่ เมื่อถึงจังหวะงัดหุ้นขึ้นมาพะยะค่ะ