THANI ดีด 3% โบรกชี้กำไรปีนี้ทะลุ 2 พันลบ. “รับสินเชื่อขยายตัว-คุม NPL ดี” ชูเป้า 5.50 บ.
THANI ดีด 3% โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 5.50 บ. มองกำไรปี 65 แตะ 2.06 พันลบ. พลิกกลับมาขยายตัว 21% รับสินเชื่อขยายตัว-คุม NPL เด่น และ Credit cost ลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (16 มี.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ณ เวลา 11:57 น. อยู่ที่ระดับ 4.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 2.91% โดยทำจุดสูงสุดที่ 4.26 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.14 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108.96 ล้านบาท
บริษัท หลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มี.ค. 2565) ว่า ทางฝ่ายวิจัยมองเป็นกลางต่องาน SET opportunity day วานนี้ (15 มี.ค.) โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1) ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท เทียบเท่า Loan growth ที่เพิ่มขึ้น 6-7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ดีกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดเล็กน้อยที่เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น เริ่มปล่อยสินเชื่อผ่าน TTB และจะปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนในครึ่งปีหลัง 2565, 2) NPL ไม่เกิน 4% (ใกล้เคียงปี 2564 ที่ 3.8%) และ Credit cost ไม่เกิน 1% และ 3) ประเมินผลกระทบจำกัดจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 2.06 พันล้านบาท พลิกกลับมาขยายตัว เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อที่จะขยายตัว เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อีกทั้ง NPL ทรงตัวที่ 3.7% และ Credit cost ที่ลดลง เนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้ง Management overlay เพิ่ม นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัยประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 จะขยายตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อที่ เพิ่มขึ้นตามยอดขายรถบรรทุกในประเทศโดยเดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นที่ 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และยอดผลิตรถบรรทุกในประเทศเดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นที่ 49% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับราคาหุ้น Underperform SET ลดลง 3% และลดลง 11% ในช่วง 1 และ 3เดือนที่ผ่านมา จากผลการดำเนินงานปี 2564 ที่หดตัว อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท จาก 1) สินเชื่อที่จะขยายตัวตามอุตสาหกรรมรถบรรทุกที่มีการผลิตและขายเพิ่มขึ้น, 2) การบริหารจัดการคุณภาพสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น และ 3) ผลการดำเนินงำนในระยะยาวของบริษัท กลับมาดีขึ้นที่ปี 2565-2567 EPS CAGR ที่เพิ่มขึ้น 20% รวมทั้งราคาปัจจุบันจะเทรดต่ำที่ปี 2565 ค่า PBV ที่ 1.8 เท่า