BBGI เทรดสนั่น! ลุ้นวิ่งแตะ 15.35 บ. โบรกชูพื้นฐานแกร่ง กำไรปี 65-66 โตเฉลี่ย 30%
จับตา BBGI เทรดสนั่น! โบรกให้เป้าสูง 15.35 บ. โบรกชูพื้นฐานแกร่ง กำไรปี 65-66 โตเฉลี่ยปีละ 30% มองความต้องการใช้น้ำมันกลับมาฟื้นตัวช่วยเพิ่มยอดขายโตเด่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 มี.ค.65) หลักทรัพย์ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค ด้วยราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 10.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 4,548.60 ล้านบาท (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บีบีจีไอ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “BBGI” ในวันที่ 17 มีนาคม 2565
สำหรับ BBGI ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักคือธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ได้แก่ เอทานอล และไบโอดีเซล กำลังการผลิต 1.6 ล้านลิตรต่อวัน แบ่งเป็นเอทานอล 0.6 ล้านลิตรต่อวัน และไบโอดีเซล 1 ล้านลิตรต่อวัน BBGI ซึ่งเกิดจากการตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ระหว่าง บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จัด (มหาชน) หรือ BCP กับ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ทำให้มีความแข็งแกร่งทั้งด้านการจัดหาวัตถุดิบและจัดจำหน่ายผลผลิต
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนต่อยอดการเติบโตในอนาคตไปสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Bio-Based Products) ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) ซึ่งเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับโมเดล Bio-Circular-Green Economy (BCG) ของภาครัฐในการนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายของการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและการพัฒนาที่ยั่งยืน ปัจจุบัน บริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ แบรนด์ B-Nature Plus และลงทุนกับพันธมิตร Manus Bio Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดจำหน่ายสารให้ความหวาน
โดย BBGI มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 3,615 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,012.80 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 433.20 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมของ BCP และ KSL ในวันที่ 3-8 มีนาคม และบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน วันที่ 9-11 มีนาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 10.50 บาท มูลค่าระดมทุน 4,548.60 ล้านบาท (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 15,183 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
ด้านนายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ BBGI เล็งเห็นโอกาสการเติบโตจากธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้จุดเด่นด้านความชำนาญในเทคโนโลยีชีวภาพของบริษัทต่อยอดการเติบโต การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ที่จะเข้าลงทุนแบบบูรณาการ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การเข้าลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีความรู้และความสามารถในเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงทั้งในและต่างประเทศ
โดย BBGI ตั้งเป้าว่าในปี 2569 จะมีสัดส่วน EBITDA จากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงที่ส่งเสริมสุขภาพอยู่ที่ 50% ของ EBITDA รวม
ขณะที่ BBGI มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ BCP ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40.20% และ KSL ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 26.80% ขึ้นกับการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินและการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบคืน
พร้อมกันนี้ BBGI มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากการหักทุนสำรองต่างๆ ตามข้อบังคับของบริษัทและตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน แผนการลงทุนและการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ภาวะเศรษฐกิจ ความจำเป็นและข้อพิจารณาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ BBGI เช่น บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด, และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ได้ประเมินราคาพื้นฐานของ BBGI อยู่ที่ 15.00 บาทต่อหุ้น และราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 15.35 บาทต่อหุ้น (อ้างอิงจาก PER ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 27 เท่า)
โดย บล.เอเชีย พลัส ประเมินทิศทางกำไรปี 2565-66 เห็นการเติบโตเฉลี่ย 36.0% ต่อปี และประเมิน FV ปี 65 อิง PER 27.5 เท่า อยู่ที่ 15.0 บ./หุ้น
ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุ ใช้วิธิประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้น BBGI โดยใช้ P/E ที่เป้าหมายในปี 2565 ของบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ซึ่งมีลักษณะการประกอบธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน โดย GGC มีค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีของ Forward PER ที่ 24 เท่า
รวมถึงอัตราส่วนกำไรสุทธิของ GGC ที่ 6-7% และเนื่องจากคาดว่า BBGI จะมีอัตรากำไรมากกว่าจากผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง จึงคาดว่า P/E เป้าหมายที่เหมาะสมอยู่ที่ +0.5 s.d. หรือ 27 เท่า จากสมมติฐานหลักในปี 2565 ซึ่งประกอบไปด้วยอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) อย่าง เอทานอล ไบโอดีเซล หลังสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันกลับมาฟื้นตัว จะช่วยเพิ่มยอดขายให้บริษัทในปี 2565 ที่ 15,574 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน และ EPS อยู่ที่ 0.57 บาท เมื่อคำนวณกับระดับ PER เป้าหมายที่ 27 เท่า จะได้ราคาเป้าหมายในปี 2565 ของ BBGI อยู่ที่ 15.35 บาท