น้ำมันปิดบวกรับสต็อกสหรัฐฯเพิ่มน้อยกว่าคาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.3% ปิด (29 ต.ค.) ที่ 46.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 48.8 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ต.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 480 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 785,000 บาร์เรล สู่ระดับ 53.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 218.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 142.1 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม แรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบได้ถูกสกัดลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากผลการสำรวจธนาคาร 13 แห่งของหนังสือพิมพ์ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า ราคาน้ำมันจะยังคงถูกกดดันอยู่ต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์ในปีหน้า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด ผลสำรวจดังกล่าวระบุว่า ถึงแม้การผลิตน้ำมันจากสหรัฐได้เริ่มชะลอตัวลง แต่ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียยังคงผลิตน้ำมันใกล้ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อิหร่านเตรียมผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดเช่นกัน