ดอลล์อ่อนค่าหลังจีดีพีสหรัฐฯขยายตัวน้อยกว่าคาด

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0901 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5315 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5251 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.11 เยน จาก 121.21 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9897 ฟรังก์ จาก 0.9952 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7077 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7086 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนแรงลง หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นสำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ ขยายตัว 1.5% เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.6% และต่ำกว่าระดับ 3.9% ในไตรมาส 2 การชะลอตัวของ GDP ในไตรมาส 3 เป็นผลมาจากการที่บริษัทต่างๆลดการผลิต ขณะที่ผู้บริโภค, ภาคธุรกิจ และรัฐบาลชะลอการใช้จ่าย

ขณะเดียวกัน สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 2.3% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 106.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ และเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันการร่วงลงของดัชนีมีสาเหตุมาจากปริมาณบ้านเสนอขายที่ลดน้อยลง ขณะที่ความผันผวนของตลาดหุ้นก็ส่งผลให้ผู้ซื้อชะลอการซื้อบ้าน โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนีจะพุ่งขึ้น 1% ในเดือนก.ย.

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของดอลลาร์ได้ถูกสกัดไว้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวแทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ภายในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ตัวเลข GDP ย่ำแย่อย่างมาก แต่นักลงทุนยังเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้

Back to top button