เปิดหน้าลุย!
ถ้าให้มองการทะยานของตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ครึ่งด้วยใจเป็นกลาง “โมนิก้า” ยังมองเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเหมือนเดิม
*ถ้าให้มองการทะยานของตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ครึ่งด้วยใจเป็นกลาง “โมนิก้า” ยังมองเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเหมือนเดิม เพราะมองในแง่ของผลงานที่ฟื้นตัวดีขึ้นเป็นที่ตั้ง น่าจะหนุนให้ดัชนีวิ่งขึ้นมายืนเหนือ 1,700 จุดได้ไม่ยากเย็น ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีที่เล่าให้ฟังเมื่อต้นสัปดาห์ว่า พีอีหุ้นไทยไม่ได้สูงจนไม่กล้าทำอะไร! รวมทั้งความเสี่ยงในการลงทุนก็ไม่สูงมากนักไงล่ะคะ
*นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักเล่นกลุ่มสถาบันเปิดหน้าลุยอีกครั้ง เพราะปัจจัยต่าง ๆ ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่คิดในตอนแรก แต่กลับดีขึ้นเป็นลำดับเสียด้วยซ้ำ!..ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามที่ใกล้ยุติ หรือการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” ต้องเร่งมือในการทำรอบหุ้น เพราะรู้ดีว่า เที่ยวนี้ยังต้องเน้นเล่นสั้นเพื่อรอให้ทุกอย่างชัดเจนกว่านี้เจ้าค่ะ
*ทั้งหมดเป็นภาพที่ “โมนิก้า” พยายามฉายซ้ำหลายรอบ เพราะต้องการให้แฟนคลับเน้นเรื่องความยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ หลังดัชนีเปิดกระโดดตั้งแต่นาทีแรก ก่อนทะยานขึ้นไปทำไฮในระหว่างวันที่ระดับ 1,686.45 จุด แต่หลังจากนั้นกลับย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,681.76 จุด บวกไป 13.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.77 หมื่นล้านบาท พร้อมกับเปิดแก๊ปทิ้งไว้ตรงบริเวณ 1,655 จุดแบบนี้ เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า ดัชนีต้องลงมาปิดแก๊ปเสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะวิ่งฉิวนะจะบอกให้
*รายที่ฟื้นตัวชัดเจน และลั่นวาจาปีนี้โต 20% อย่างแน่นอน “โมนิก้า” ต้องมองย้อนไปที่หุ้น BGRIM ในทันที เพราะในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นลงลูกเดียว แต่ทันทีที่ประกาศเรื่อง M&A และเป็นผู้รับประโยชน์มากสุดจากการขึ้นค่าไฟรอบใหม่ของ กกพ. เดี๊ยนถึงมองว่า การขึ้นมาปิดที่ 35.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 738 ล้านบาท น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า ฟ้าเปิดแล้วจ้า!
*ในเมื่อต้องเปิดหน้าลุยสุดตัว IVL ย่อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะธุรกิจผ่านช่วงที่ยากลำบากสำหรับชีวิตมาแล้ว แถมกูรูสายปิโตรมองกำไรปีนี้จะขึ้นไปแตะ 2.80 หมื่นล้าน (กำไรต่อหุ้นจะอยู่ราว ๆ 4.50 บาท) จึงทำให้เชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 46.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.96 พันล้านบาท เล่นได้สบายใจเฉิบ (พีอี 15 เท่า ก็มีลุ้นถึง 67 บาท) เพราะหุ้นเพิ่งขยับตัวน่ะซี
*เม้าท์ถึงเรื่องขยับตัวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเหลียวมองกลับไปที่หุ้นถ่านหิน BANPU เพราะในระหว่างที่หุ้นหลายตัวกำลังขยับขึ้นรอบใหม่ แต่หุ้นตัวนี้ต้องเผชิญกับแรงขายกดลงมาตลอดเวลา จนวานนี้ยืนคอตกอยู่ที่ระดับ 11 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท และเป็นการลงมายืนใกล้ฐานแนวรับเดิมบริเวณ 10.50 บาทแบบนี้ คงเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อลุ้นเด้งสั้น ๆ แล้วออกของให้หมดนะจ๊ะ
*ส่วนหุ้นทรงดี กำไรดี อนาคตปัง ต้องมองไปที่ SSP เป็นรายถัดมาแบบเต็มใจ เพราะเมื่อดูจากการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 12.20 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 314 ล้านบาท ท่ามกลางการเทรดบนค่า PE 15 เท่า เดี๊ยน ย่อมมองเป็นเรื่องที่เซฟสุด ๆ เพราะปีนี้จะเป็นปีที่กำไรโตดีอีกปีหนึ่ง ผนวกกับการขึ้นในแต่ละรอบจะไปจบแถว 14 บาทเป็นประจำ จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องลุยต่อพะยะค่ะ
*ในเมื่ออยากลุยกันทั้งที “โมนิก้า” ก็ขอให้ลุยแบบมีชั้นเชิง และควรพุ่งเป้าไปที่หุ้น BBIK แบบไม่ลังเลใจ เพราะนี่คือบริษัทดาวรุ่งพุ่งแรงของตลาด “เอ็มเอไอ” ผสานกับแบ็คอัพที่คอยเกื้อหนุนธุรกิจก็ใหญ่เบ้งระดับประเทศ เดี๊ยนจึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 56.50 บาท บวกไป 4.75 บาท หรือขึ้นไป 9.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 179 ล้านบาท เพราะเที่ยวก่อนก็ขึ้นมาแถว 60 บาท..จำได้บ่!
*ตบท้ายกันที่หุ้นเหมืองขุดอย่าง ZIGA กันสักหน่อย เพราะการพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.35 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 9.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 511 ล้านบาท ท่ามกลางราคาบิตคอยน์ร่วงลงอีกรอบ มันเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งกับความเป็นจริงสุด ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับคิดให้ดีก่อนลุยสุดซอย เพราะประเด็นรับเครื่องขุดเพิ่มอีก 200 ตัว ไม่น่าจะทำให้หุ้นแรงได้ใจขนาดนี้..จริงไหม “น้องหนุ่ย” ของอีฉัน!