เล่นหุ้นโรงพยาบาล

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้แกว่งแคบ

ดัชนีสูงสุด 1.685.78 จุด และต่ำสุด 1,671.08 จุด

มูลค่าการซื้อขาย 73,653 ล้านบาทไม่ถึงกับบาง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับหนาแน่นมากนัก

SET ที่ออกมาแบบนี้เหตุเพราะยังไร้ปัจจัยบวกและลบ

ประเด็นเรื่องโควิด-19 เหมือนน้ำหนักจะถูกลดลงไปค่อนข้างมาก

นักลงทุนเริ่มมีความเคยชิน และมองว่า ถึงอย่างไร ตลาดหุ้นกับโควิด ต้องอยู่ร่วมกันไปได้

ปัจจัยเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ลดดอกเบี้ย  0.25% เป็นไปตามคาดการณ์ และยังไม่มีท่าทีปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบแข็งกร้าวนัก

รัสเซีย-ยูเครน ไป ๆ มา ๆ นักลงทุนน่าจะค่อย ๆ เริ่มชินแล้วล่ะ

ประเมินกันว่า ความขัดแย้งของสองประเทศไม่น่าจะขยายวงออกไป

อย่างมากกลุ่มชาติตะวันตก ทำได้แค่เพียงส่งอาวุธให้

ส่วนมาตรการคว่ำบาตร คงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะรู้ดีว่า ยิ่งคว่ำบาตรรัสเซีย ตัวเองก็ต้องเจ็บด้วย

หากความขัดแย้งยังยืดเยื้อไปแบบนี้

เข้าใจว่า ในที่สุดจะเป็นอีกปัจจัย (ลบ) ที่นักลงทุนค่อย ๆ เริ่มคุ้นชิน

เมื่อวานนี้จะเห็นว่า หุ้นที่บวกส่วนใหญ่ มีปัจจัยบวกแบบเฉพาะตัว

อย่าง TRUE และ DTAC ที่ราคาขึ้นมาพร้อมกันอีกครั้ง จากความคืบหน้าเรื่องการควบรวมกิจการ

กลุ่มโรงพยาบาล หุ้นโรงพยาบาลจุฬารัตน์  CHG ยังบวกได้ต่อเนื่อง หลังจากราคาหุ้นผ่านแนวต้าน 3.75 บาท ล่าสุดมาปิดที่แนวต้านถัดไปพอดี 3.90 บาท

แนวโน้มวันนี้ อาจจะมีย่อตัว หรือเคลื่อนไหวที่บริเวณนี้

มีแนวต้านจิตวิทยาที่ระดับ  4.00 บาท และทางเทคนิค 4.20 บาท

พี/อีล่าสุด 10.15 เท่า PBV 5.64 เท่า

CHG ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.17 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 5  พ.ค.นี้

หากคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล เมื่อเทียบกับราคาปิดวานนี้จะได้เท่ากับ  4.35% เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าสนใจ

ราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์แต่ละโบรกฯ ให้ไว้ อยู่ประมาณ  3.90–4.40 บาท

ดูทรงแล้วราคาหุ้นอาจไปได้อีกไม่ไกล

BCH บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) เป็นอีกหุ้นโรงพยาบาลวิ่งขึ้นมาโดดเด่น

พี/อี ล่าสุด  7.72 เท่า

หุ้น  BCH มีระดับ พีอีที่เหมาะสม ประมาณ 9 เท่า

ราคาปิดวานนี้  21.80 บาท ผ่านแนวต้านที่ระดับ 21.10 บาทขึ้นมาได้แบบชิล ๆ

BCH มีแนวต้านถัดไปคือ 23.00 บาท

แนวต้านนี้น่าจะไปถึงได้ไม่ยากเท่าไหร่ เพราะตอนนี้วอลุ่มซื้อสะสมหนาแน่นทุกวัน

แต่ราคาหุ้นของ BCH ที่ระดับ พีอี 9 เท่านั้น จะมาอยู่บริเวณ 25.00 บาทพอดี เป็นทั้งแนวต้านจิตวิทยา ทางเทคนิค หรือเป็นแนวต้านใหญ่

หากราคาผ่าน  23.00 บาทขึ้นมาได้

ราคาหุ้นน่าจะเริ่มวิ่งขึ้นแบบชะลอตัวแล้วล่ะ

อาจจะเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรกันออกมาบ้าง

เว้นแต่จะได้แรงส่งจากการจ่ายเงินปันผล 1.00 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 พ.ค.นี้

ทำให้หุ้นแม้จะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง

ทว่า ราคาไม่น่าจะปรับลงเยอะ

เพราะอย่างน้อยยังมี “ฟูก” หรือเงินปันผลรองรับแรงกระแทกอยู่

ขณะที่ด้านการดำเนินงาน ล่าสุด ผู้บริหารยืนยันว่า ยอดผู้ใช้บริการยังเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยโควิด

แม้จะมีปัญหาเรื่องประกันบ้าง

แต่ยังมีกลุ่มคนที่พร้อมจะจ่ายเงินสด ทำให้ทาง  BCH จะมีเงินสดเข้ามาเร็วขึ้น

ตรงนี้ถือเป็นผลดีกับทางโรงพยาบาล

อีกปัจจัยคือ ยอดผู้ป่วยชาวต่างชาติ เริ่มเข้ามารับการรักษากันมากขึ้น

ข่าวว่าไตรมาสแรกปีนี้งบสวย

ส่วน  BDMS หลังจากผ่านแนวต้านใหญ่ 25.00 บาทขึ้นมาได้

ราคากลับเริ่มนิ่ง ๆ กราฟวิ่งออกมาเป็น “น้องหวี”

เช่นเดียวกับ IMH ที่ราคาทะยานขึ้นต่อเนื่อง และราคาหุ้นเพิ่งทำนิวไฮ 23.30 บาท เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการขายทำกำไร ทำราคาย่อมาอยู่ 21.20 บาท

หากราคาหุ้นยังย่อมาอีก รับบริเวณไต้  21.00 บาท ถือว่าน่าสนใจ

ราคาเป้าหมายอยู่ระหว่าง 25.75-30.30 บาท