EA ลุยส่งมอบ “บัสไฟฟ้า” ล็อตแรกครึ่งปีหลัง เดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่สังคม EV
EA ประเดิมส่งมอบ “บัสไฟฟ้า” ล็อตแรกช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จำนวน 500 คัน ขณะที่บริษัทเข้าลงทุน “สมาร์ทบัส” หวังกระตุ้นเปลี่ยนผ่านสู่สังคม EV ให้เร็วยิ่งขึ้น
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 23 มีนาคม 2565 เกี่ยวกับประเด็นหลังจากส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อกิจการ “สมาร์ทบัส” มูลค่าลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท โดยเป็นการนำมาซึ่งสัมปทานการเดินรถโดยสารประจำทาง 37 เส้นทาง มีจำนวนรถสูงสุด 1.2 พันคัน เพื่อเป็นการเปิดทางให้บริษัทนำรถบัสไฟฟ้าที่ผลิตเองมาใช้ให้บริการด้วย
โดยการที่บริษัทเข้าลงทุนใน “สมาร์ทบัส” เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น และพิสูจน์ให้เห็นว่ารถบรรทุกไฟฟ้า หรือรถบัสไฟฟ้าสามารถวิ่งได้จริงและทดแทนรถน้ำมันได้ แก้ปัญหาการชาร์จได้ด้วยโซลูชั่นของบริษัท ซึ่งปัจจุบันมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการลงทุนในตลาดนี้ เนื่องจากยังไม่มีใครหันมาสนใจมากนัก จึงอาจจะยังไม่มีคู่แข่งที่มากนัก โดยปัจจุบันรถขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนมี 1.3 ล้านคัน หากเกิดการเปลี่ยน 10% ต่อปี หรือประมาณ 1.3 แสนคัน คิดเป็นประมาณ 5 ล้านบาทต่อคัน และหากคิดเป็นธุรกิจ จะอยู่ที่ประมาณ 6 แสนล้านบาท
ขณะที่การส่งมอบรถยนต์ฟ้าล็อตแรก จำนวน 450-500 คัน คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คิดเป็นราคาประมาณ 7 ล้านบาทต่อคัน ขณะเดียวกันสมาร์ทบัสมีสัญญาจ้างบริษัทในเครือ คือ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ซ่อมบำรุง ดังนั้นบริษัทจะได้รับประโยชน์ ทั้งในส่วนของโรงประกอบ โรงแบตเตอรี่ และสถานีชาร์จ EV
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าภายในประเทศที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต จนถึงการให้บริการดูแลซ่อมบำรุงหลังการขายที่ครบวงจร พร้อมทั้งมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดของไทยและอาเซียน ซึ่งสามารถผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบสำรองไฟฟ้าได้เองครบทุกกระบวนการด้วยกำลังการผลิตในระยะเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพื่อป้อนให้กับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของบริษัท ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า MINE Bus เรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry และรถบรรทุกไฟฟ้า
นอกจากนี้บริษัทมีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าไว้รองรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเทคโนโลยี Ultra Fast Charge ที่ทันสมัยที่สุด ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ที่มีชื่อว่า EA Anywhere โดยบริษัทมุ่งหวังยกระดับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลภาวะอย่างยั่งยืนเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมไร้คาร์บอนอย่างจริงจัง