เฟ้นหา “หุ้นค้าปลีก” อัพไซด์สูง-ราคาแลกการ์ด
เฟ้นหา “หุ้นค้าปลีก” อัพไซด์สูง-ราคาแลกการ์ด โบรกเชียร์ "ซื้อ" CPN เป้า 65.50 บ. อัพไซด์ 17.49%, MC เป้า 10.70 บ. อัพไซด์ 18.23%, CPALL เป้า 79 บ. อัพไซด์ 22.48% ชี้ปีนี้ธุรกิจค้าปลีกจะฟื้นตัวแรงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ดัชนีรวมกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 8.30% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ในขณะที่ดัชนี SET Index ปรับตัวขึ้นเพียง 1.22% สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาดพอสมควร
ผลดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดว่าธุรกิจค้าปลีกจะฟื้นตัวแรงในปี 2565 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่กลับมา เพราะการเปิดดำเนินการได้ตามปกติไม่มี lockdown เหมือน 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งการฟื้นตัวของยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) หลังกลับมาเปิดประเทศมากขึ้นและรวมถึงนโยบายการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ เช่นมาตราการช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง เป็นต้น
โดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้นหลักๆ อย่าง บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ปรับตัวขึ้น 19%, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ปรับตัวขึ้น 18%, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME ปรับตัวขึ้น 14% และบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ปรับตัวขึ้น 13% สำหรับการปรับตัวขึ้นเป็นราคานับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน แต่อาจทำให้อาจเหลือ upside อีกไม่มากนักเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย
สำหรับ CRC วันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 38.00 บาท เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 43.25 บาท พบว่ายังมี Upside 13.82%, ส่วนของ GLOBAL วันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 22.30 บาท เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 24.50 บาท พบว่ายังมี Upside 9.87%, ขณะที่ DOHOME วันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 21.30 บาท เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 24.50 บาท พบว่ายังมี Upside 15.02% และ BJC วันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 35.25 บาท เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 33.50 บาท เท่ากับว่า Downside ไปแล้ว
นอกเหนือจากนั้นยังมีส่วนของราคาหุ้น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มีการปรับตัวลดลง 3.10% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน, บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามถือว่ายัง Laggard อยู่เมื่อเทียบกับกลุ่ม และเป็นหุ้นที่ทางฝ่ายวิจัยแนะนำ “ซื้อ” โดยยังมี Upside เหลืออยู่อีกพอสมควร
ทั้งนี้ทำให้ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าในระยะสั้นอาจเห็นการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น CPN ,MC และ CPALL ตามหุ้นในกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นนำไปก่อนหน้าอย่างแน่นอน เนื่องจากหากเทียบกับราคาเป้าหมายที่ทางนักวิเคราะห์ประเมินไว้ถือว่ายังมีอัพไซด์ให้นักลงทุนเข้าไปลงทุน
อย่างเช่นกรณีของ CPN วันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ระดับ 55.75 บาท ถือว่ายังมี Upside ราว 17.49% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 65.50 บาท, รวมถึง MC วันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 9.05 บาท ถือว่ายังมี Upside ราว 18.23% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท และ CPALL วันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 64.50 บาท ถือว่ายังมี Upside ราว 22.48% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท
ในส่วนของ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO แม้ว่าจะปรับตัวแย่กว่าตลาดมากคือลดลง 5% แต่เป็นเพราะปัจจัยพื้นฐาน โดยคาดกำไรจะชะลอตัวลง 2% ในปีนี้ สวนทางกับกลุ่มที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เฉลี่ย 32% โดยเชื่อว่า MAKRO จะมี Upside risk หากบริษัทสามารถรับรู้ประโยชน์จาก Synergy หลังรวมกิจการได้เร็วกว่าคาด ส่วน Downside risk คือการที่สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวช้ากว่าคาด ดังนั้นแนะนำพื้นฐานเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมาย 44 บาท และ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ก็มี Upside จำกัดจากวันที่ 24 มี.ค. 65 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 15.80 บาท เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 16.30 บาท ซึ่งยังมีอัพไซด์เพียง 3.16%