HPT จะดีขึ้น
HPT เริ่มส่งสัญญาณในทางบวก ซึ่งได้เห็นราคาเป็นแท่งเทียนเขียวยาว บวกกับวอลุ่มที่เข้ามาหนาตามากยิ่งขึ้น แสดงถึงพละกำลังของแรงซื้อที่ดูแกร่งขึ้น ล่าสุดราคาหุ้นสามารถปรับตัวผ่านเส้นเฉลี่ยทุกเส้นอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าราคาหุ้นพร้อมจะปรับตัวขึ้นต่อไปเมื่อธุรกิจของบริษัทเริ่มฉายภาพจากการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น
–คุณค่าบริษัท–
ราคาหุ้น HPT หรือบริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) เริ่มส่งสัญญาณในทางบวก ซึ่งได้เห็นราคาเป็นแท่งเทียนเขียวยาว บวกกับวอลุ่มที่เข้ามาหนาตามากยิ่งขึ้น แสดงถึงพละกำลังของแรงซื้อที่ดูแกร่งขึ้น ล่าสุดราคาหุ้นสามารถปรับตัวผ่านเส้นเฉลี่ยทุกเส้นอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าราคาหุ้นพร้อมจะปรับตัวขึ้นต่อไปเมื่อธุรกิจของบริษัทเริ่มฉายภาพจากการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดเซรามิคในต่างประเทศยังคงมีการขยายตัวของความต้องการใช้งาน ส่งผลให้บริษัทได้รับการติดต่อจากกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆเข้ามาอย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันบริษัทได้ทำการรุกตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ในประเทศต่างๆ ขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคตะวันออกกลาง หรือทางแถบทวีปอเมริกาใต้ รวมไปถึงนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ซึ่งปัจจัยตรงนี้ จะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างรายได้ในอนาคตได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การที่ลูกค้าหลักของ HPT เป็นผู้ประกอบการโรงแรม หรือภัตตาคารจะส่งผลให้บริษัทมีโอกาสที่จะสามารถผูกขาดลูกค้าไปได้ในตัวเนื่องจากธุรกิจประเภทดังกล่าวจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์ลักษณะเดียวกัน ซึ่งนั่นหมายถึงว่าลูกค้าของ HPT มีแนวโน้มที่จะต้องย้อนกลับมาซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทอยู่ร่ำไป หากเกิดการแตกหักหรือเสียหาย นอกเสียจากว่า บรรดาลูกค้าจะยอมทุ่มทุนแล้วล้างสต็อกจาน-ชามที่เหลืออยู่ แล้วสั่งซื้อล็อตใหม่หรือดีไซน์ใหม่ไปเลย
ส่วนแผนการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มเข้ามาในระยะแรก หลังจากการติดตั้งเตาเผาและเครื่องจักรใหม่ เพื่อขยายคอขวดในกระบวนการผลิต และผ่านการทดสอบเครื่องจักร (Test Run) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทคาดว่าสามารถเริ่มการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 ปี 58 และเริ่มรับรู้รายได้จากกำลังผลิตใหม่ได้ทันที
ขณะที่กำลังการผลิตใหม่จะมีกำลังผลิตสูงสุดอยู่ที่ 3 ล้านชิ้น หรือเพิ่มขึ้น 100% จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตจากเตาเผาเดิมอยู่ที่ 3 ล้านชิ้นต่อปี โดยกำลังการผลิตในล็อตแรกจะสามารถรองรับออเดอร์จากลูกค้าเดิมในโซนยุโรปและอเมริกาเป็นหลัก คิดเป็นปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากกำลังผลิตเดิม โดยคิดเป็นมูลค่า 6 ล้านบาทที่จะรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 4 ปี 58
สำหรับผลประกอบการปี 2558 ผู้บริหารคาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้จำนวน 131.04 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากการส่งออกประมาณ 99% ในประเทศ 1% และหากการขยายฐานลูกค้าในประเทศต่างๆ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จะส่งผลให้ผลประกอบการในอนาคตของ HPT สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด
แม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 27.49 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.83 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องปิดซ่อมบำรุงเตาเผาเป็นเวลาประมาณ 15 วัน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 1.83 ล้านบาท หรือ 0.004 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.23 ล้านบาท หรือ 0.013 บาทต่อหุ้น
ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 57.51 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 66.47 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 4.34 ล้านบาท หรือ 0.011 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.42 ล้านบาท หรือ 0.024 บาทต่อหุ้น
สิ่งที่น่าสนใจ คือ ฐานะทางการเงินของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 112.55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 28.77 ล้านบาท ได้ค่า Current ratio อยู่ที่ระดับ 3.92 เท่า ถือว่าสภาพคล่องมากเกินความจำเป็น ขณะที่ด้านหนี้สินไม่มีไรน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมเพียง 37.92 ล้านบาท เมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 224.88 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.17 เท่า แสดงว่า บริษัทปลอดหนี้สินจริงๆ
HPT ฉายภาพขยายรุกธุรกิจไปต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตสดใสแน่ๆ
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1. นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ 173,960,000 หุ้น 33.45%
2. นางวรรณี เชาว์กิตติโสภณ 173,560,000 หุ้น 33.38%
3. นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ 20,080,000 หุ้น 3.86%
4. นางทองใบ รวยถาวรกิจ 20,080,000 หุ้น 3.86%
5. นางวรนุช บูรณจินดารัตน์ 12,080,000 หุ้น 2.32%
รายชื่อกรรมการ
1. นายเทพกุล พูลลาภ ประธานกรรมการบริษัท
2. นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้จัดการ
3. นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการ
4. นางวรรณี เชาว์กิตติโสภณ กรรมการ
5. นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการ