NER มั่นใจรายได้ปีนี้ 2.8 หมื่นลบ. จ่อปิดดีลลูกค้ารายใหญ่-อานิสงส์ราคาสินค้าพุ่ง
NER มั่นใจรายได้ปีนี้ 2.8 หมื่นลบ. คาดยอดขายพารา 500,000 ตัน จ่อปิดดีลลูกค้าล้อยางอินเดียรายใหญ่ พร้อมรับอานิสงค์รับอานิสงค์ราคาน้ำมันสูง ดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง เดินหน้าขยายกำลังผลิตต่อเนื่อง
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า สถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวสูงขึ้น ส่วนความคืบหน้าการเจรจาลูกค้าอินเดีย โดยล่าสุดทางลูกค้าเดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงงานเพื่อพิจารณาคุณภาพและตรวจสอบสินค้า และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยม
ด้านเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมคาดเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 28,000 ล้านบาท ส่วนปริมาณการขายคาดว่าจะสามารถทำยอดขายยางพาราอยู่ที่ 500,000 ตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 510,000 ตัน โดยสัดส่วนของยอดขายในปี 2565 บริษัทยังวางนโยบายการจำหน่ายสินค้าในประเทศและต่างประเทศเป็น 65:35 เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราค่าระวางเรือที่ปรับเปลี่ยนในทิศทางที่สูงขึ้น โดยมองว่าความต้องการใช้ยางพาราในอุตสาหกรรมยังดีต่อเนื่อง หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ก็จะทำให้มีการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ และทางเรือสูงมากขึ้น ส่งผลดีต่อความต้องการใช้ธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทขอเชิญชวนผู้ถือวอร์แรนต์ (NER-W1) ให้แจ้งการใช้สิทธิแปลงสภาพครั้งสุดท้าย ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 โดยมีระยะเวลาการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายระหว่างวันที่ 11 – 25 พฤษภาคม 2565 ณ สถานที่ติดต่อในการใช้สิทธิ คือ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ณ อาคารเซ็นทรัลซิตี้บางนา ชั้น 28 กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น
สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตและยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น จากนโยบายของบริษัทที่เดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และช่วยเสริมให้บริษัทมีฐานเงินทุนที่เข้มแข็งขึ้น สำหรับการขยายการดำเนินงานในอนาคต