กม.ที่รัฐไม่รับผิด
เห็น “แรมโบ้ & บิ๊กโจ๊ก” บุกค้น “มังกรฟ้า” กองสลากพลัส โทษว่าเป็นตัวทำสลากแพง แล้วโยงนักการเมือง ก็คิดอยู่ว่าจะซ้ำรอยทัวร์ศูนย์เหรียญไหม
นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ยืนยันว่า “แม่ธนาธร” สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ บุกรุกป่าสงวน กรมที่ดินสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ นส.3 ก. 59 ฉบับ 2,111 ไร่ ที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยให้ไปฟ้องคัดค้านที่ศาลปกครอง
แหงสิครับ ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ด้วย แต่ไม่รู้จะได้รับความเป็นธรรมแค่ไหนภายใต้อำนาจที่รู้กัน เพราะเรื่องที่กล่าวหา “แม่ธนาธรรุกป่า” ข้อเท็จจริงคือที่ดินผืนนี้ออก นส.3 ก. มาตั้งแต่ปี 2521 แม่ธนาธรซื้อต่อจากกลุ่มมิตรผลเมื่อปี 2543 ซื้อมาตั้งนานไม่เคยมีเรื่อง แต่พอลูกชายเล่นการเมือง กรมป่าไม้ก็ไปตรวจสอบแล้วอ้างว่า อยู่ในเขตป่าถาวรที่ประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติเมื่อปี 2527 การออก นส.3 ก. เมื่อปี 2521 ใช้ระวางรูปถ่ายทางอากาศ มิได้แจ้งการครอบครองที่ดิน จึงออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
เป็นความผิดใครที่ “ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย” ความผิดแม่ธนาธร? ความผิดมิตรผล? หรือความผิดกรมที่ดิน
นส.3 ก. เป็นเอกสารสิทธิที่กรมที่ดินรับรอง การซื้อขายต้องไปเสียค่าโอนที่สำนักงานที่ดิน แปลว่ารัฐโดยกรมที่ดินรับประกัน ว่าซื้อขายได้ถูกต้องตามกฎหมาย จู่ ๆ จะมาเพิกถอนว่าออกมิชอบ งั้นใครต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย ถ้าไม่ใช่กรมที่ดิน
กรณีนี้ก็คล้ายที่ดินอัลไพน์ กรมที่ดินไม่กล้าเพิกถอน เพราะผู้ซื้อบ้านมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายหูตูบ
คุณออกโฉนดออก นส.3 ให้ปัจเจกชน แล้ววันหนึ่งเพิกถอนโดยอ้างว่าผิดตั้งแต่ต้น คุณไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดได้ แต่รัฐไทยมักอ้างอำนาจปัดความรับผิด ลอยนวล แล้วข้าราชการยังยกตนเป็นพระเอกอีกต่างหาก
ประเด็นนี้ไม่ใช่แค่เรื่องธนาธร ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง ถ้ามองให้กว้างตั้งแต่เรื่องเล็กถึงเรื่องใหญ่ จะเห็นกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจโดยไม่ต้องรับผิด เต็มไปหมด
ยกตัวอย่างคดีความที่สั่นสะเทือนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ “ศาลปกครองสั่งทุบตึก” ทั้งตึกซอยร่วมฤดี และอโศก (คดียังไม่สิ้นสุด) ศาลชี้ว่า กทม.ผิด ออกใบอนุญาตไม่ถูกต้อง ศาลสั่งให้ทำให้ถูกต้องเสีย โดยใช้อำนาจบังคับเจ้าของตึกทุบทิ้ง
ทั้งเจ้าของตึกและลูกบ้านก็งงงวย ไม่ถูกฟ้องด้วยแต่โดนทุบ อย่างนี้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก กทม.ได้ไหม กทม.ไม่ต้องรับผิดชอบเลยหรือไง ออกใบอนุญาตให้จนเขาสร้างเสร็จแล้วขายหมดแล้ว
หรือลองดูคดีเล็ก ๆ ที่เป็นดราม่า ยาย 70 ปลูกกัญชาต้นเดียวโดนขังข้ามคืน สังคมวิจารณ์อื้ออึงว่าตำรวจทำเกินเหตุ แต่ตำรวจยืนยันมีอำนาจควบคุมตัว 24 ชั่วโมง ใครเอาผิดไม่ได้นะ กฎหมายคุ้มครองการใช้อำนาจของตำรวจ
เหมือนตำรวจใช้อำนาจสลายม็อบ หรือผู้ว่าฯ ใช้คำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้บางคำสั่งไร้เหตุผลสิ้นเชิง ก็ฟ้องไม่ได้ เช่นบางจังหวัดห้ามขายเหล้า ทั้งที่ ศบค.ไม่ได้สั่ง จังหวัดอื่นก็ไม่สั่ง
สัปดาห์ก่อน ศาลอาญาสั่งยกฟ้องคดีคนเสื้อแดง 6 รายโดนหาว่าจ้างวานวางระเบิด คดีนี้ใช้กฎอัยการศึกเอาตัวไปสอบสวนในค่ายทหาร ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานยังเชื่อไม่ได้ แต่จำเลย 2 รายติดคุกมา 6 ปี
ถ้าเทียบคดีที่ไม่ใช่การเมือง เมื่อต้นเดือนศาลฎีกายกฟ้อง “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” โอเอทรานสปอร์ต ซึ่งยกฟ้องตั้งแต่ศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ แต่จำได้ไหม คดีนี้ใช้อำนาจ ปปง.อายัดทรัพย์ 8.3 พันล้าน กระทั่งจำเลยร้องให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าคำสั่ง ปปง.ขัดรัฐธรรมนูญ แต่คิดดูว่าโดนอายัดทรัพย์ตั้งแต่ปี 2561 ธุรกิจพินาศย่อยยับเพียงไร แล้วจะฟ้อง ปปง.ได้ไหม
เห็น “แรมโบ้ & บิ๊กโจ๊ก” บุกค้น “มังกรฟ้า” กองสลากพลัส โทษว่าเป็นตัวทำสลากแพง แล้วโยงนักการเมือง ก็คิดอยู่ว่าจะซ้ำรอยทัวร์ศูนย์เหรียญไหม
เพราะรัฐต้องหา “คนผิด” ให้ได้ คนผิดที่ไม่ใข่ตัวเอง รัฐทำตามกฎหมาย รัฐไม่เคยต้องรับผิด