จับตาบอร์ด NT พรุ่งนี้! หึ่งขายล้างพอร์ต DTAC ก่อนควบ สหภาพฯค้านสุดตัว

จับตา NT ประชุมบอร์ดพรุ่งนี้ พิจารณาวาระเกี่ยวข้องกับหุ้น DTAC ที่คาดว่าจะขายออกมาทั้งหมดที่ถืออยู่ 5.69% ก่อนควบรวมกับ TRUE คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.66 พันลบ.


นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า จากกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT ยื่นหนังสือถึง พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ ประธานกรรมการบริษัท (บอร์ด) NT เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อขอคัดค้านการนำหุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ที่ถือครองอยู่ไปขาย หลังจากที่ทราบมาว่าการประชุมบอร์ด NT พรุ่งนี้ (5 เมษายน 2565) จะมีการนำวาระการขายหุ้น DTAC ให้บอร์ดพิจารณานั้น

ล่าสุด นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ยอมรับว่าพรุ่งนี้จะมีการประชุมบอร์ดของ NT จริง และมีวาระการพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับหุ้น DTAC ที่ NT ถือครองอยู่ 134.65 ล้านหุ้นหรือ 5.69% เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ถือเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติในการกำหนดท่าทีของ NT หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติข้อเสนอควบรวมกิจการของ DTAC กับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีการกำหนดท่าทีใดๆ ไว้ล่วงหน้า ตามที่สหภาพแรงงาน NT ได้ยื่นหนังสือแสดงแสดงความเป็นห่วงและคัดค้านการขายหุ้น DTAC โดยทั้งหมดต้องรอการพิจารณาจากที่ประชุมบอร์ด NT พรุ่งนี้อีกครั้งว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร

โดยปัจจุบัน NT ถือหุ้น DTAC อยู่ 134.65 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.69% ซึ่งหากทาง NT ขายหุ้นออกมาทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าการซื้อขายราว 6.66 พันล้านบาท ซึ่งคำนวณจากราคาปิด ณ วันนี้ (4 เมษายน 2565) ที่ระดับ 49.50 บาท

อนึ่ง นายพงศ์ฐิติ พงศ์ศิลามณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT กล่าวว่า สหภาพฯ ได้ยื่นหนังสือขอคัดค้านการนำหุ้น DTAC ที่ถือครองอยู่ไปขายถึง “พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ” ประธานกรรมการบริษัท (บอร์ด) NT เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทราบมาว่าจะมีการนำวาระการขายหุ้น DTAC ให้บอร์ดพิจารณาในวันที่ 1 เม.ย.2565 แต่มีการเลื่อนประชุมบอร์ดเป็นวันที่ 5 เม.ย.นี้แทน

ทั้งนี้ สหภาพฯ ขอคัดค้านการดำเนินการเรื่องดังกล่าวเนื่องจาก NT เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ใน DTAC และได้รับเงินปันผลปีละ 200-300 ล้านบาท และที่สำคัญหากยังคงถือครองหุ้น DTAC ต่อไป NT จะเป็นผู้ถือหุ้นคนสำคัญที่กำหนดทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อ NT ได้ และ NT สามารถใช้ช่องทางการถือครองหุ้นนี้ต่อรองกับผู้เล่นรายต่างๆ ในธุรกิจที่มีการแข่งขันได้ อีกทั้งหุ้นในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมจะเป็นหุ้นที่มีราคาดีในอนาคตต่อไป เพราะโครงข่ายสื่อสารจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นรองรับสังคมดิจิทัล ที่ทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้ในการเข้าถึงและใช้บริการ Digital services ในสังคมยุคอนาคตของโลก

นอกจากนี้ หากพิจารณาถึงสภาพคล่องของกระแสเงินสดของ NT แล้ว จะพบว่า NT ยังมีสภาพคล่องที่ดี มีกระแสเงินสดกว่าแสนล้านบาท จากเงินสำรองหมุนเวียนจากการชนะคดีปกครอง เรื่องค่า AC/IC ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เดิม ประมาณ 60,000 ล้านบาท และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เดิมอีก 50,000 ล้านบาท จึงไม่จำเป็นต้องขายสมบัติเก่าคือหุ้น DTAC เพื่อให้องค์กรอยู่รอด

นายพงศ์ฐิติ กล่าวว่า การขายหุ้นดังกล่าว สามารถวิเคราะห์ถึงสาเหตุได้ 2 รูปแบบ คือ สาเหตุแรก บอร์ดต้องการทำให้ผลประกอบการ NT ไม่อยู่ในภาวะขาดทุน ตามสไตล์การบริหารจัดการแบบ กสท โทรคมนาคม ที่เน้นการขายสมบัติเก่าทำให้ไม่ขาดทุนทางบัญชี เหมือนผลประกอบการที่ผ่านมาของ กสท โทรคมนาคม คาดว่าการขายหุ้นครั้งนี้จะทำให้มีรายได้กว่าหมื่นล้านบาท นั่นคือการหลอกตัวเอง หลอกพนักงานให้เชื่อว่าบริษัทมีกำไร ทั้งๆ ที่ขาดทุน เหมือนผลประกอบการปี 2564 หากดูตัวเลขการดำเนินงานจริงๆ แล้ว NT ประสบปัญหาขาดทุน แต่เมื่อนำค่า USO ที่ได้คืนมาทำให้บริษัทมีกำไรทางบัญชี

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือ อาจเป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพราะเมื่อมีการควบรวมระหว่าง TRUE กับ DTAC จะมีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ และอาจมีคนบางกลุ่มรอช้อนซื้อหุ้นที่ NT ขายเพราะยังไงเสียหุ้นต้องมีราคาขึ้นมากกว่านี้ในอนาคตอย่างแน่นอน

รวมทั้งยังมีบทวิเคราะห์ Industry Update เรื่อง ICT Sector ของวันที่ 21 มี.ค.2565 ให้คำแนะนำในแนวทางถือครองหุ้น DTAC อยู่ หากมีผลกระทบทางบัญชีระยะสั้น แต่เชื่อว่าไม่กระทบกับความสามารถในการจ่ายเงินปันผล และบทวิเคราะห์ยังคงแนะนำให้ถือครองหุ้น DTAC มากกว่าหุ้น TRUE และให้นักลงทุนจับตาวันสำคัญคือวันที่ 4 เมษายน 2565 หากการประชุมผู้ถือหุ้นโหวตผ่านมติ มีโอกาสที่หุ้นจะตอบสนองเชิงบวก

ดังนั้น สหภาพฯ จึงขอให้พิจารณาทบทวนแนวคิดหรือการดำเนินการของบอร์ดให้เก็บรักษาหุ้น DTAC ให้พนักงานไว้ใช้ในยามจำเป็นในอนาคต เพื่อเป็นทุนสำรองของพนักงานในอนาคตต่อไป และขอเรียกร้องให้บอร์ดกำหนดทิศทางการดำเนินงานของ NT ให้มีความชัดเจน กำกับดูแลงานควบรวมกิจการให้เป็นเนื้อเดียวโดยเร็ว และส่งเสริมผู้บริหารคนเก่งที่มีสมรรถนะความสามารถในการทำหน้าที่บริหาร และเร่งรีบการสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่เพื่อให้การขับเคลื่อนองค์กรมีผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนโดยเร็วและมีความโปร่งใส แยกงานการกำกับดูแลและงานบริหารออกจากกัน ไม่ใช่ให้บอร์ดมาทำหน้าที่ทั้ง 2 อย่างในตัวบุคคล หรือทีมเดียวกัน

Back to top button