SET ชี้สงคราม ”ยูเครน-รัสเซีย” กระทบน้อย ดัชนีมี.ค.65 สูงกว่า ASEAN โต 0.6%
ตลาดหุ้นไทยเดือนมี.ค.65 โต 0.6% เทียบกับเดือนก่อน หลังวิกฤต “ยูเครน-รัสเซีย” กระทบไทยน้อย อีกทั้งได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง อย่างกลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มทรัพยากร
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจัยภายในประเทศที่มีความเชื่อมโยงไปยังรัสเซียและยูเครนมีค่อนข้างน้อยประกอบกับเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาคบริการและการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมืองในอนาคต ทำให้เห็น Fund Flow จากผู้ลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยผู้ลงทุนต่างชาติย้ายเงินทุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นในภูมิภาค ASEAN โดยในไตรมาส 1/2565 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นไทยมากที่สุด ทำให้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 SET Index ปิดที่ 1,695.24 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.3% จากสิ้นปี 2564
สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 SET Index ปิดที่ 1,695.24 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.3%จากสิ้นปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN
- SET Index ในไตรมาส 1/2565 ได้แรงหนุนจากอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากการกลับมาเปิดเมือง โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มทรัพยากร
- ในเดือนมีนาคม 2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 95,532 ล้านบาท ลดลง 0.4% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ใน ไตรมาส 1/2565 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,240 ล้านบาท โดย ผู้ลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ผู้ลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนที่สี่โดยในเดือนมีนาคม 2565 ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 32,771 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวม 131,367 ล้านบาท
- ในเดือนมีนาคม 2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 1 บริษัท ได้แก่ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ประกอบธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ-ผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง ซึ่งมีมูลค่าเสนอขายกว่า 5,000 ล้านบาทซึ่งมีมูลค่าติด 1 ใน 5 ของ IPO ใน ASEAN สำหรับไตรมาส 1/2565
- Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 17.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.3 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 18.4 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.0 เท่า
- อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.63% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.41%
ด้านภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีรายละเอียดดังนี้
- ในเดือนมีนาคม 2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 701,944 สัญญา เพิ่มขึ้น 14.2% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ SET50 Index Futures, Single Stock Futures และ Gold Online Futures และในไตรมาส 1/2565 TFEX ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 631,382 สัญญา เพิ่มขึ้น 14.6% จากไตรมาส 1/2564