บลจ.กสิกรไทย ออกกอง K-EUSAGEเน้นลงหุ้นยุโรปที่ได้ผลดีจากผู้สูงวัย
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน ซิลเวอร์เอจ (K-EUSAGE) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยจะกระจายการลงทุนใน 8 กลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากประชากรผู้สูงวัยในยุโรป ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะรับการเติบโตของเมกะเทรนด์กลุ่ม Healthcare โดยจะเสนอขายครั้งแรกวันที่ 3-9 พ.ย.นี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทยเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน ซิลเวอร์เอจ (K-EUSAGE) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยจะกระจายการลงทุนใน 8 กลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากประชากรผู้สูงวัยในยุโรป ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะรับการเติบโตของเมกะเทรนด์กลุ่ม Healthcare โดยจะเสนอขายครั้งแรกวันที่ 3-9 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ K-EUSAGE มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก CPR Silver Age-I ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ซึ่งบริหารจัดการโดย CPR Asset Management บริษัทในเครือของ Amundi ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยกองทุนหลักมีนโยบายกระจายการลงทุนใน 8 กลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากประชากรผู้สูงวัยในยุโรป ประกอบด้วย กลุ่มการเงินและประกัน กลุ่มเภสัชกรรม กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแสสุขภาพ กลุ่มธุรกิจสถานดูแลคนชรา กลุ่มธุรกิจด้านความปลอดภัย และกลุ่มธุรกิจรถยนต์
ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นการคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละกลุ่มธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป บริหารจัดการกองทุนแบบผสมผสานระหว่างวิธีการ Top-down และ Bottom-up เพื่อมุ่งหวังให้ได้ผลประกอบการที่สูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) โดยใช้ดัชนีอ้างอิงจาก MSCI Europe (Net Dividends Reinvested) ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง และมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของหุ้นยุโรป และการขยายตัวของธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากประชากรผู้สูงวัยในยุโรป
นายนาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ธีมการลงทุนในกลุ่ม Healthcare และ Silver Age หรือกลุ่มประชากรผู้สูงอายุ ยังคงเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจ และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากแนวโน้มของประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกได้ระบุว่า สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีนั้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 1950 เป็น 17% ในปี 2050 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก
ที่สำคัญคนกลุ่มนี้จะมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูง โดยข้อมูลของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ระบุว่ากลุ่มคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปในยุโรป มีอำนาจจับจ่ายใช้สอยสูงถึง 3 ล้านล้านยูโร ทำให้ความต้องการสินค้าและบริการด้านสุขภาพมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์จากกลุ่ม Silver Age จากข้อมูลสถิติและปัจจัยต่างๆที่กล่าวมา บลจ.กสิกรไทยจึงมองเห็นศักยภาพในการเติบโตของหุ้นในกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากประชากรผู้สูงอายุดังกล่าว และมองเห็นโอกาสในการเข้าไปลงทุนในหุ้นของยุโรป
สำหรับมุมมองด้านเศรษฐกิจนั้น บลจ.กสิกรไทย มองว่าเศรษฐกิจยุโรปยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในกลุ่มประเทศยูโรโซน อาทิ อัตราการจ้างงานในยุโรปที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับแนวโน้มผลกำไรบริษัทจดทะเบียนเองก็กำลังปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ หลังจากที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรปเริ่มทยอยออกมาประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3 นำโดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขมหภาคที่ชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป ดังนั้นน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ภาคธุรกิจและบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ของยุโรปสามารถขับเคลื่อนไปได้ในทิศทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ประเด็นสำคัญอีกอย่างที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง คือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของยุโรป ซึ่งเชื่อว่าทาง ECB น่าจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมเข้าสู่ระบบ เพื่อกระตุ้นภาครวมเศรษฐกิจให้เกิดการฟื้นตัว และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มน้ำหนัการลงทุนในหุ้นยุโรปในช่วงที่ราคายังไม่สูงมากนัก เพื่อรอรับโอกาสการเติบโตของหุ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต