หุ้นยุโรปปิดบวก รับ PMI ภาคการผลิตยูโรโซนขยายตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากผลสำรวจของมาร์กิตที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของยุโรป
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.3% ปิด (2 พ.ย.) ที่ 376.75 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,916.21 จุด เพิ่มขึ้น 18.55 จุด หรือ 0.38%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,950.67 จุด พุ่งขึ้น 100.53 จุด หรือ 0.93% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,361.80 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด หรือ 0.01%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตจีน หลังจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน เพิ่มขึ้นแตะ 48.3 ในเดือนต.ค. จาก 47.2 ในเดือนก.ย. แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัว
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนี (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 52.3 ในเดือนต.ค. ระดับ 52.0 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่ได้มีการประเมินไว้เบื้องต้น มาร์กิตเปิดเผยว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ PMI ยูโรโซนขยายตัวนั้นมาจาก PMI เยอรมนี ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นขานรับยอดผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยคอมเมิร์ซแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6.6% ขานรับผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นอัลฟา แบงก์ และหุ้นยูโรแบงก์ เออร์กาเซียส์ ซึ่งเป็นธนาคารของกรีซ ต่างก็ทะยานขึ้น 29% หลังจากรัฐบาลประกาศแผนให้ความช่วยเหลือภาคธนาคาร
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ปรับตัวลง 0.8% หลังจากเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารมีรายได้ลดลง 4% สู่ระดับ 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 นอกจากนี้ เอชเอสบีซียังได้ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร โดยมุ่งความสนใจมายังภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสร้างผลกำไรแก่ธนาคารคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่ามีจำนวนพนักงานเพียง 1 ใน 3 ของทั้งหมด