BYD ก้าวสู่โฮลดิ้ง.!?

ช่วงที่ยังเป็นบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC ก็มักจะมีข่าวฉาว ๆ คาว ๆ อยู่เป็นระยะ ๆ ให้เป็นที่โจษจันในวงการโบรกเกอร์…ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ต่ำกว่าเกณฑ์กำหนด ซึ่งมีสารตั้งต้นมาจากการที่ AEC ไปซื้อหุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ซึ่งถูกลดเครดิตเรตติ้งจาก A เป็น C อย่างกะทันหัน ไว้เยอะ…

ตามมาด้วยประธานกรรมการบริหาร อย่าง “ประพล มิลินทจินดา” ถูก กลต. กล่าวโทษ กรณีร่วมขบวนปั่นหุ้นบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง 22 ล้านบาท ส่งผลให้ “ประพล” ต้องหลุดจากประธานกรรมการบริหาร AEC ไปโดยปริยาย

ทำให้ภาพจำของ AEC ไม่ค่อยน่าอภิรมย์นัก จัดเป็นโบรกเกอร์สีเทา ๆ..!!

สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น…ทำให้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ AEC..!!

ครั้นพอกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ EA เข้ามาปุ๊บ…ก็เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่ จาก AEC มาเป็นบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ในปัจจุบัน…ตามด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างบอร์ด ส่งคนของตัวเอง นั่นคือ “ออมสิน ศิริ” เข้าไปเป็น CEO ใน BYD…

หลังจากนั้นก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ เดิมมีแค่ธุรกิจโบรกเกอร์ ก็ขยับขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ…

ที่เห็นชัด คือ ธุรกิจขนส่งผู้โดยสารรถประจำทาง ผ่านบริษัทลูกอย่าง บริษัท ไทยสมายล์ บัส จำกัด (TSB) และภาพยิ่งชัดเจนมากขึ้น เมื่อไทยสมายล์ บัส แจ้งข่าวดีรับไตรมาส 2 ด้วยการชนะประมูลสัมปทานเดินรถประจำทาง 71 สาย…รวมทั้งธุรกิจลีสซิ่ง ผ่านบริษัท เอช อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ACE) ซึ่ง BYD ถือหุ้น 49%

และด้วยธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ BYD อยู่ระหว่างเตรียมเนื้อเตรียมตัวอัพเลเวลขึ้นสู่ “โฮลดิ้ง คอมพานี”..!!

ซึ่งภายใต้โฮลดิ้ง คอมพานี นั้น จะประกอบด้วย 3 ขา…ขาแรก ธุรกิจโบรกเกอร์ ขาที่สอง ธุรกิจขนส่งผู้โดยสารรถประจำทาง และขาสุดท้าย ธุรกิจลีสซิ่ง

สำหรับธุรกิจโบรกเกอร์ เป็นธุรกิจที่แข่งขันกันสูง มาร์จิ้นค่อนข้างบ๊างบาง แต่ที่น่าสนใจ คือ ธุรกิจลีสซิ่ง ซึ่งอันดับแรก รถบัสไฟฟ้า หรืออีบัสของไทยสมายล์ บัส ที่เข้ามาให้บริการ ก็ปล่อยกู้ผ่านเอช อินคอร์ปอเรชั่น นั่นแหละ เกิดเป็นนิเวศภายใน…โดยเอช อินคอร์ปอเรชั่น ก็กินรายได้ค่าดอกเบี้ยไป

แต่ไม่จบแค่นั้นนะสิ…เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ BYD ก็คือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ EA ที่ปลุกปั้นธุรกิจอีวีมาเกือบครึ่งชีวิต ซึ่ง EA ก็มีบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สัมปทานการเดินรถรวม 37 สาย กว่า 1,200 คันเหมือนกัน

แล้วลองนึกภาพตามนะว่า สมาร์ทบัสจะไปกู้ลีสซิ่งที่ไหน ถ้าไม่ใช่เอช อินคอร์ปอเรชั่น…ใช่ป๊ะล่ะ

โอเค…แม้ตลาดรถบัสอีวี จะเป็นนีชมาร์เก็ต แต่เป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตก้าวกระโดด ซึ่งการปล่อยกู้แต่ละคันก็หลายล้านอยู่นะ…

ส่วนธุรกิจขนส่งผู้โดยสารรถประจำทาง แรก ๆ อาจไม่มีกำไร แต่เมื่อถึงจุดคุ้มทุน หลังจากนั้นก็จะดีขึ้น ช่วยหนุน BYD อีกแรง…

แต่ถ้าให้เดา BYD คงไม่หยุดอยู่แค่ 3 ขาหรอกมั้ง อาจจะงอกขาที่ 4 หรือขาที่ 5 ตามมาก็ได้…

จึงน่าจับตา BYD ในลุคใหม่จะไฉไลขนาดไหน..?

แต่ที่รู้ตอนนี้หุ้น BYD จี๊ดจ๊าดมาก…เพราะขนาดถูกจับขังคุกแคชบาลานซ์ ก็ยังซ่าไม่หยุด…ฉุดไม่อยู่เลยนะเนี่ย

…อิ อิ อิ…