พาราสาวะถี
วันศุกร์ที่ผ่านมาที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบเทสต์ แอนด์ โก มีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป
วันศุกร์ที่ผ่านมาที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ยกเลิกการเดินทางเข้าประเทศแบบเทสต์ แอนด์ โก มีผลตั้งแต่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ยุ่งยากจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเดินทางเข้ามาประเทศไทย นั่นหมายความว่า สถานการณ์โควิด-19 น่าเป็นห่วงหรือไม่จากนี้อยู่ที่คนไทยด้วยกัน เพราะหมอการเมืองสรุปชัดเจน ตัวเลขติดเชื้อจากต่างชาติและคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศน้อยกว่าในประเทศ ดังนั้นต้องจับตาสัปดาห์นี้ซึ่งจะเป็นจุดชี้วัดหลังเทศกาลสงกรานต์ผู้ติดเชื้อพุ่งกระฉูดหรือไม่
สิ่งที่เป็นความมั่นใจของฝ่ายหมอการเมืองว่าตัวเลขจะไม่ทะลุจนระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับได้ เนื่องจากช่วงสงกรานต์ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาลเคร่งครัด ขณะที่การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ก็มีการระมัดระวังกันเต็มที่ จึงเชื่อว่าสถานการณ์จะไม่เลวร้าย นั่นจึงทำให้สามารถผ่อนคลายมาตรการรับนักท่องเที่ยว รวมถึงยกเลิกพื้นที่ควบคุมหรือสีส้ม 20 จังหวัด เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดหรือสีเหลือง รวม 65 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวหรือสีฟ้าจาก 10 เป็น 12 จังหวัด
ไม่เพียงเท่านั้นยังได้มีการเพิ่มเวลาสำหรับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านจากเดิมถึง 5 ทุ่มเป็นเที่ยงคืนด้วย ส่วนผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังต้องร้องเพลงรอไปก่อน แต่ก็มีการเปิดช่องให้ปรับเป็นร้านอาหารภายใต้มาตรการควบคุมอย่างเคร่งครัด ถือว่าพอที่จะให้บรรดาผู้ได้รับความเดือดร้อนมีช่องทางทำมาหากินกันอยู่บ้าง ถ้าประเมินกันตามแนวทางเช่นนี้ หากตัวเลขผู้ป่วยไม่เพิ่มไปมากกว่านี้ ขณะที่ผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตไม่กระโดดขึ้นจนน่าหวั่นวิตก บรรดาสิ่งที่ถูกห้ามทั้งหลายน่าจะได้เฮ
สวนทางกับสถานการณ์โควิดที่ทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเริ่มจะหายใจหายคอได้ กลับเป็นเรื่องทางการเมืองที่เกิดแรงกระเพื่อมต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายในพรรคแกนนำรัฐบาลเอง เมื่อพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เริ่มโชว์ลีลาเก๋าเกมเขย่าขวัญสั่นประสาทน้องเล็กและน้องรอง ใครจะเชื่อว่าสิ่งที่ นิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาลให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบหัวหน้าพรรคสืบทอดอำนาจที่ว่าได้พบกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่อังกฤษจะเป็นเพียงแค่เรื่องหยอกกันเล่นเฉย ๆ
เหมือนที่ทางการข่าววิเคราะห์กันไปก่อนหน้า การเมืองเรื่องของคนที่จะไปต่อเขาไม่ได้มองว่าปัจจุบันเสถียรภาพของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร หากแต่พูดไปถึงว่าหลังเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้กันกี่เสียงและจะจับมือกันอย่างไร ภายใต้โจทย์ที่ว่าจะต้องไม่มีผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจมาเกี่ยวข้อง เมื่อเป็นเช่นนั้นย่อมหมายถึงรัฐบาลนี้อยู่ไม่ครบวาระ จะด้วยเหตุใดก็ตามแต่และปลายทางพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ขอได้ก้าวไปสู่ที่จุดที่ตัวเองใฝ่ฝันแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาไม่นานก็ตามที
สูตรการเมืองหลังเลือกตั้งนั้น มันชัดเจนขึ้นเพราะแนวโน้มของพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นอยู่เวลานี้ ทำไปทำมาจะเหลือแค่พรรคสืบทอดอำนาจและภูมิใจไทยเท่านั้น ที่น่าจะได้ส.ส.กลับมามากพอในการจะไปจับมือกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคประชาธิปัตย์เมื่อรูปการณ์ทางการเมืองยังออกลูกผีลูกคน ระดับแกนหลักของพรรคก็ทยอยลาออกจากความเป็นสมาชิกพรรคต่อเนื่อง ล่าสุดก็เป็นคิวของ วิทยา แก้วภราดัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของพรรคที่ไขก๊อกพร้อมคำเตือนที่น่าหวั่นไหว
ยิ่งมีปมของ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ เข้ามาเป็นแรงกระแทก ยิ่งทำให้ความสั่นคลอนของพรรคเก่าแก่มีมากขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่หัวหน้าพรรค จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไม่ว่าจะยืนกรานอ้างเหตุอ้างผลอย่างไรต่อการไม่ยอมลาออกจากความเป็นผู้นำพรรค แต่เชื่อได้เลยว่าหลังจากนี้จะมีความเคลื่อนไหวเพื่อสร้างแรงกดดันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคอย่างหนักหน่วงแน่นอน เพราะการไม่ยอมปรับก็เท่ากับทำให้พรรครอวันที่จะแพ้แบบหมดรูปราบคาบกว่าการเลือกตั้งหนที่ผ่านมา
ถ้าประมวลภาพจากการจัดประชุมใหญ่สามัญของสองพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บรรยากาศต่างกันลิบลับ พรรคเก่าแก่นั้นถึงขนาดต้องปิดไมโครโฟนไม่ให้สมาชิกพรรคได้อภิปราย ถามไถ่กันเลยทีเดียว หลังจากที่ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ได้จี้ให้หัวหน้าพรรคแสดงความรับผิดชอบในกรณีของปริญญ์ เรียกได้ว่ามีแต่ความห่อเหี่ยวมองเห็นปลายทางที่มีแต่สาละวันเตี้ยลง เมื่อคนเป็นผู้นำยืนกรานไม่แสดงสปิริต สิ่งที่จะตามมาก็คงมีแต่ความขัดแย้งและการโบกมือบ๊ายบาย
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล คงมองเห็นสถานการณ์ของพรรคเพื่อนกันที่ไม่น่าจะเก็บเกี่ยวจำนวนส.ส.แบบหายใจรดต้นคอชิงความเป็นที่ 3 และ 4 เหมือนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถึงขนาดประกาศลั่นว่าพรรคจะเก็บเก้าอี้ส.ส.ได้ไม่น้อยกว่า 100 ที่นั่ง เมื่อสองพรรคหลักอย่างพลังประชารัฐและเพื่อไทยมองไปที่เป้าหมาย 250 ที่นั่ง ก็เท่ากับว่าพรรคของอนุทินก็จองที่ 3 ไว้แล้ว และเป็นการประกาศท่าทีให้คนทั่วไปได้รู้ว่า นี่คือพรรคร่วมรัฐบาลตัวเลือกแรกอย่างแท้จริง
สิ่งที่ถือเป็นการบ้านสำหรับพรรคเก่าแก่ต่อการประกาศครั้งนี้ของเสี่ยหนูก็คือ การช่วงชิงเก้าอี้ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ที่ตัวเองเสียหายอย่างหนักจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่หนนั้นเสียตำแหน่งให้กับพวกเดียวกันอย่างพรรคสืบทอดอำนาจ และภูมิใจไทยบางส่วน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งหน้าระยะเวลาที่ได้เตรียมตัว ความได้เปรียบจากกระสุนดินดำที่มีการสาดใส่พื้นที่เป้าหมาย พื้นที่ความหวังอย่างเต็มที่ภายใต้การคุมทีมของ พิพัฒน์-นาที รัชกิจประการ สองนายทุนหลักของพรรค นี่คือสิ่งที่คนของประชาธิปัตย์ในพื้นที่หนักใจ
เรียกได้ว่าในรัฐบาลปัจจุบันพรรคเสี่ยหนูคือผู้กุมชะตากรรมความอยู่รอดของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและเสถียรภาพของรัฐบาลทั้งคณะ ส่วนพรรคแกนนำรัฐบาลพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็แสดงบทโหดไม่ปรานีปราศรัยกับน้องรักทั้งสองคน เพื่อให้รู้ว่าการเมืองที่แท้จริงนั้นทุกอย่างคือการลงทุน การบริหารงานของท่านผู้นำแม้จะเคยเชื่อมั่นกับกลไกสืบทอดอำนาจที่วางไว้ไม่มีอะไรมาล้มได้ แต่ด้วยผลงานที่ไม่อาจสร้างให้ประชาชนประทับใจได้ จึงได้ฟังคำแก้ตัวซ้ำ ๆ กับสิ่งที่ตัวเองเจอทั้งโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน การแก้ต่างของคนที่ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิดพลาดนั้น มันคือภาพสะท้อนอาการขาลงและรอวันปิดฉากนั่นเอง