“ดาวโจนส์” ดิ่งต่อกว่า 300 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดเศรษฐกิจซบ
“ดาวโจนส์” ดิ่งต่อกว่า 300 จุด หลังทรุดเกือบ 1,000 จุด ในวันศุกร์ กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดเศรษฐกิจซบ โดย ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,372.00 จุด ลบ 356.00 จุด หรือ 1.06%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25เม.ย.2565) ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งกว่า 300 จุด โดยตลาดปรับตัวลงต่อเนื่องจากที่ทรุดตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดย ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,372.00 จุด ลบ 356.00 จุด หรือ 1.06%
โดยหุ้นทุกกลุ่มปรับตัวลงในวันนี้ นำโดยกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันทรุดตัวลงกว่า 5% ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัททวิตเตอร์ อิงค์พุ่งขึ้นเกือบ 4% ในวันนี้ ขณะที่ราคาหุ้นเทสลา อิงค์ร่วงลงเกือบ 1% หลังแหล่งข่าวระบุว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา ใกล้บรรลุข้อตกลงในการซื้อกิจการทวิตเตอร์ โดยอาจมีการแถลงข่าวในวันนี้
ด้านสื่อรายงานว่า ในช่วงต้นเดือนนี้ นายมัสก์ได้เสนอซื้อหุ้น 100% ของทวิตเตอร์ โดยให้ราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ คิดเป็นวงเงิน 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านล้านบาท แต่ต่อมา บอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ไม่อนุมัติแผนดังกล่าว โดยใช้มาตรการที่เรียกว่า “poison pill” เพื่อสกัดแผนการครอบงำกิจการแบบปรปักษ์ของนายมัสก์
อย่างไรก็ดี ทางบอร์ดฯเริ่มมีท่าทีอ่อนลง และมีแนวโน้มยอมรับข้อเสนอของนายมัสก์ หลังจากที่เขาได้เปิดเผยว่าสามารถระดมทุน 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อกิจการทวิตเตอร์
ล่าสุด บอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ได้ประชุมกันเมื่อวานนี้เพื่อพิจารณาข้อเสนอของนายมัสก์ รวมทั้งข้อเสนออื่นๆ และมีแนวโน้มว่าบริษัทอาจจัดการแถลงข่าวในประเด็นดังกล่าวภายในวันนี้ ก่อนที่จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทแอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน, อัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล รวมทั้งบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ หรือเฟซบุ๊ก
โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 1,000 จุดในวันศุกร์ ท่ามกลางความผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลง 1.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 2.8% และดัชนี Nasdaq รูดลง 3.8% โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 3
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ