พาราสาวะถี

เหตุใดการเมืองช่วงนี้จึงดูคึกคักเป็นอย่างยิ่ง เป็นเพราะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคการเมืองต่าง ๆ


เหตุใดการเมืองช่วงนี้จึงดูคึกคักเป็นอย่างยิ่ง เป็นเพราะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ประกอบกับจังหวะก้าวทางการเมืองของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากอังกฤษพร้อมกับข่าวดีลพิเศษ แม้จะมีการบอกปัดและโยนไปเป็นเรื่องของการพูดหยอกล้อเท่านั้น หากแต่วงในต่างก็รับรู้ทิศทางการเมืองหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ได้ถูกขีดเส้นไว้ต้องเป็นไปตามที่ขบวนการสืบทอดอำนาจต้องการอีกต่อไป

บรรดาเกจิทั้งหลาย มองไปยังโหวงเฮ้งบนใบหน้าของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.นับวันดูมีแต่จะสดใส ผ่องแผ้ว ไร้วี่แววคนอมทุกข์ ผิดกับน้องเล็กของแก๊งที่เห็นได้ชัดว่าราศีไม่จับเหมือนแต่ก่อน มิหนำซ้ำ การทำงานในฐานะผู้นำประเทศก็เอาแต่ปัดป้องกับสิ่งที่ตัวเองมีภาระหน้าที่จะต้องทำเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน เที่ยวโทษโน่นโทษนี่ จนประชาชนเขาเอือมระอา วันนี้แม้แต่พวกที่เคยหนุนยังส่ายหน้าถ้าไม่ใช่ประเภทหลับหูหลับตาเชียร์ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันขืนให้อยู่ยาวมีหวังจะอดตายและจนกันหมดประเทศแน่ ๆ

หลังเลือกตั้งครั้งหน้าถ้าไม่นับ 250 เสียงส.ว.ลากตั้งที่ยังมีส่วนร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ยังหาความชัดเจนไม่ได้ว่าจะมีพรรคการเมืองไหนที่จะสนับสนุนหรือเสนอชื่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเป็นแคนดิเดตนายกฯ แล้วการันตีได้ว่าจะรวบรวมเสียงของสภาล่างได้เกินครึ่งหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้เหมือนหนที่ผ่านมา เพราะพรรคสืบทอดอำนาจถึงแม้จะรักษามารยาทด้วยการยืนยันยังไงก็เสนอชื่อผู้นำเผด็จการอยู่แล้ว แต่หนนี้จะไม่ใช่ชื่อเดียวโดด ๆ เหมือนที่ผ่านมา

ความเป็นพรรคการเมืองที่หวังผลจากคะแนนของประชาชน ก็ต้องอ่านเกมว่าเมื่อถึงเวลาที่มีการหย่อนบัตร ความนิยม การตอบรับของประชาชนที่มีต่อคนที่เสนอชื่อเป็นนายกฯ จะเป็นอย่างไร ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าขีดเส้นเอาเฉพาะเวลานี้ใครที่ประกาศหนุนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ก็เท่ากับประกาศความพ่ายแพ้ไปครึ่งค่อนตัวแล้ว ดังนั้น การเสนอ 2 รายชื่อเผื่อเลือกจึงเป็นหนทางที่จะต้องทำ เมื่อถึงเวลาโหวตกันในสภาอยู่ที่ว่าสมาชิกพรรคจะหยิบเอาชื่อไหนมาชงให้เลือกนั่นเอง

สัญญาณการแสดงอำนาจ บารมีในพรรคของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็เด่นชัดแล้วผ่านการจัดวางตัวคณะกรรมการบริหารพรรค บรรดาสายตรงของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่หวังจะส่งเข้าไปยึดกุมอำนาจ ดึงบรรดาส.ส.ที่อยู่ใต้อาณัติของพี่ใหญ่ให้มาอยู่กับตัวเองก็ไร้ตำแหน่งแห่งหน เมื่อเดินเกมการเมืองพลาด และเปิดหน้าให้พี่ใหญ่เห็นแล้วว่า น้องรักทั้งสองเป็นพวกที่วางใจไม่ได้ การเมืองภายในแก๊งที่เคยแนบแน่นจึงเต็มไปด้วยหมากกลที่ไม่มีใครเชื่อใจกันเหมือนเดิม

ส่วนพรรคที่จะไปตั้งรอผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ หลังจากเกิดคลิปฉาวของ เสกสกล อัตถาวงศ์ แทบจะมองไม่เห็นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเดินต่อกันไปแบบไหน งานนี้ถึงขนาดทำเอาบรรดาพวกเชลียร์ที่เตรียมจะไปยิ่งใหญ่และหากินกันกับพรรคดังว่ามีอันต้องหน้าชา หน้าแหกกันเป็นแถว ขณะที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ก่อนหน้านั้น ทำท่าว่าจะยุบรวมพลังประชาชาติไทยไปอยู่กับพรรคเกิดใหม่ ก็ต้องเปลี่ยนใจหันมาทำพรรคตัวเองด้วยการเปลี่ยนชื่อพรรคให้สั้นลงเหลือแค่ พรรครวมพลัง

ทว่าถ้าระบบการเลือกตั้งเปลี่ยนไปจากครั้งก่อน ก็ไม่มีใครการันตีได้ว่าพรรคการเมืองนี้จะได้ส.ส.กี่ที่นั่ง ไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่แสดงท่าทีสนับสนุนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นไทยภักดี หรือแม้แต่พรรคกล้าของ กรณ์ จาติกวณิช รวมไปถึงพรรคเล็กพรรคน้อยต่าง ๆ สนามเลือกตั้งครั้งต่อไปเมื่อระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบ โอกาสที่จะได้ส.ส.ก็ลดน้อยถอยไป นี่จึงเป็นโจทย์ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจขบคิดอยู่ตลอดเวลาจะเดินบนถนนสายการเมืองจากนี้ไปแบบไหน

จากสถานการณ์การเมืองที่ขบวนการสืบทอดอำนาจไม่สามารถจะยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนได้ รวมไปถึงความเลวร้ายของกลไกที่ได้วางไว้ที่ได้นำมาซึ่งความล้าหลังของประเทศนี่เอง เป็นจุดที่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมแล้วนำเสนอผ่านการปราศรัยของ 4 แกนนำหลักในการประชุมพรรคเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการตีตรงจุด ฉายภาพสร้างความหวังให้คนมองเห็นอนาคต และชี้ให้เห็นถึงผลเสียของการรัฐประหารที่ผ่านมา

ในจังหวะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต่างโหยหามืออาชีพที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาจากวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยฉกฉวย ด้วยการนำเสนอทางออก และการนำพาให้ประเทศได้เดินไปข้างหน้า ทั้งในฐานะอดีตที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว และแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำเช่นนั้นได้อีกหรืออาจจะดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป การมาของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร จึงไม่ใช่แค่ความเป็นลูกสาวทักษิณเท่านั้น หากแต่เป็นการชูภาพตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง

พวกที่เกลียดระบอบอุปโลกน์อย่างระบอบทักษิณเข้าไส้ย่อมตั้งป้อมปฏิเสธกันตั้งแต่เห็นชื่อ แต่คนที่เปิดใจและลองฟังสิ่งที่ลูกสาวทักษิณนำเสนอ หรือแม้แต่การให้สัมภาษณ์กับบรรดาสื่อต่าง ๆ นั้น จะเห็นได้ถึงความไม่ธรรมดาของผู้หญิงรายนี้ ไม่ได้มีดีแค่ความเป็นอดีตลูกนายกฯ เท่านั้น ไหวพริบปฏิภาณ ความฉลาดในการตอบคำถาม รวมไปถึงวิสัยทัศน์ หากตัดคำว่าคนในตระกูลชินวัตรออกไป บอกได้คำเดียวว่าทุกพรรคการเมืองคู่แข่งเหนื่อย

ด้วยเหตุนี้กระมัง จึงทำให้บรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ จึงสงวนท่าทีเมื่อถูกถามถึงการกระโดดเข้าสู่ถนนสายการเมืองของคนที่ชื่อแพทองธาร ไม่เว้นแม้กระทั่งพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ที่ตอบถึงโอกาสการจับมือกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต การเมืองเป็นเรื่องของความเปลี่ยนแปลง นักเลือกตั้ง หัวหน้าพรรคการเมืองต่างรู้ดีว่าไม่จำเป็นอย่าได้ประกาศตัวเป็นศัตรูกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่พรรคที่หนักใจกว่าใครเพื่อนคงหนีไม่พ้นประชาธิปัตย์ ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาสาละวันเตี้ยลงยังไง ถึงขนาดที่จะต้องให้ ชวน หลีกภัย กลับมากุมบังเหียนกันอีกหน สวนทางกับสังคมที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

Back to top button