ดาวโจนส์ปิดบวก 89 จุด จากแรงซื้อหุ้นพลังงาน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาคาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งรวมถึงน้ำมันและโลหะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาผลประกอบการบริษัทเอกชน หลังจากบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (AIG) เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (3 พ.ย.) ที่ 17,918.15 จุด เพิ่มขึ้น 89.39 จุด หรือ +0.50%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,145.13 จุด เพิ่มขึ้น 17.98 จุด หรือ +0.35% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,109.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.74 จุด หรือ +0.27%

หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบและโลหะปรับตัวสูงขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1.8% หุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ดีดตัวขึ้นกว่า 4.8% ขณะที่หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ทะยานขึ้น 5%

หุ้นไมโครซอฟท์ หุ้นวีซา อิงค์ และหุ้นแอปเปิล ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.1% ซึ่งช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล โดยทั้งสองบริษัทได้เปิดเผยผลประกอบการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมภาคธุรกิจในนครนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค. หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีในเดือนก.ย. ทั้งนี้ รายงานของ ISM ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กพุ่งขึ้นสู่ระดับ 65.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากร่วงแตะระดับ 44.5 ในเดือนก.ย. ขณะอยู่ที่ 51.1 ในเดือนส.ค.

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูผลประกอบการบริษัทเอกชนอย่างใกล้ชิด หลังจากบริษัท AIG เปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในไตรมาส 3 ขณะที่ธนาคารยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 3 มูลค่า 2.1 พันล้านฟรังค์ หรือ 2.13 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้หุ้นยูบีเอสปิดตลาดร่วงลง 5.8% เมื่อคืนนี้

นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันพุธนี้ ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อจับสัญญาณเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค., และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการบริการเดือนต.ค.ในวันนี้ สำหรับในวันพรุ่งนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 3/2558 ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.ย.

Back to top button