น้ำมันดิบปิดพุ่ง รับข่าวโรงกลั่นสหรัฐฯชะลอการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทกลั่นน้ำมันในสหรัฐได้ชะลอการผลิตลงในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.76 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิด (3 พ.ย.) ที่ 47.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 50.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทกลั่นน้ำมันในสหรัฐได้ชะลอการผลิตน้ำมันดิบลงในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. เพื่อซ่อมบำรุงโรงกลั่นในช่วงที่อุปสงค์เชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรอบอ่าวอาหรับประกาศชะลอการปิดซ่อมบำรุงบ่อน้ำมันไปจนถึงปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะลดต้นทุน นอกจากนี้ รายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ ลดลง 16 แห่ง สู่ระดับ 578 แห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่ง IEA จะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาสหรัฐ ขณะตลาดคาดการณ์ว่า EIA จะเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการปรับตัวลงของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ ส่วนในรอบสัปดาห์ก่อนหน้านั้น EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 480 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 785,000 บาร์เรล สู่ระดับ 53.3 ล้านบาร์เรล