KEX มั่นใจครึ่งปีหลัง 65 เทิร์นอะราวด์ ยัน “ดีเซล” ขึ้นไม่กระทบต้นทุน
KEX มั่นใจครึ่งปีหลัง 65 เทิร์นอะราวด์ ยันดีเซลขึ้นไม่กระทบต้นทุน-เดินหน้ากลยุทธ์ตามแผน ระยะกลาง ระยะยาว หวังรักษาความเป็นผู้นำ
นายอิศรินทร์ ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 28 เมษายน 2565 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
ต้นทุนน้ำมันดีเซลปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ของต้นทุนทั้งหมด และมีแผนรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
ในส่วนของต้นทุนน้ำมันดีเซลจะอยู่ประมาณ 10-11% ของต้นทุนทั้งหมด ซึ่งถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้น 2 บาท อาจจะอยู่ประมาณ 7% ในรอบนี้ ก็จะกระทบกับต้นทุนของบริษัทที่เพิ่มขึ้นประมาณ 0.60-0.70% ในเรื่องของการราคาบริการนั้นบริษัทจะไว้เป็นมาตรการสุดท้าย แต่มาตรการแรกที่เริ่มทำมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วและต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ ซึ่งถ้าเป็นระยะสั้นกับระยะกลาง คือมุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการ โดยคิดแผนจัดส่งพัสดุจำนวนมากขึ้นหรือเท่าเดิมแต่ใช้ทรัพยากรหรือน้ำมันน้อยลง และมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ตรงส่วนนี้จะทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนในภาพรวมได้อย่างเหมาะสมไม่ได้สูงขึ้นตามราคาน้ำมันมากจนเกินไป สำหรับในระยะยาวบริษัทก็มีความสนใจในเรื่องของอีวีเพื่อมาใช้ทดแทน นอกจากจะเป็นการลดการพึ่งพาน้ำมันที่มีราคาผันผวนแล้วก็ยังเป็นส่วนช่วยลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
การปรับขึ้นราคาดีเซล 32-35 บาทในครั้งนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบเป็นนัยที่อาจจะต้องปรับขึ้นราคาขนส่งสินค้าใช่หรือไม่
สำหรับเรื่องของราคานั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากต้องดูปัจจัยหลายด้านควบคู่ด้วย ซึ่งบริษัทคงไม่ได้เพิ่มราคาทันทีแต่อาจจะใช้กลยุทธ์การตีราคาอย่างเหมาะสมมากขึ้นตามกลุ่มลูกค้า ในส่วนนี้ผู้บริโภคก็จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
บริษัทมีการทบทวนปรับเป้าหมายรายได้และกำไรใหม่หรือไม่
มีการทบทวนอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้บริษัทก็ไม่เห็นผลกระทบของราคาน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานกลยุทธ์ในระยะกลาง ระยะยาวของบริษัท
มาร์เก็ตแชร์ได้ตามเป้าหรือไม่ แนวโน้มการฟื้นตัวผลกำไรเป็นเช่นไร
ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ได้ โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุกมาตลอดเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ โดยไตรมาส 1 บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องของมาร์เก็ตแชร์และวอลุ่ม แม้ว่าโดยทั่วไปไตรมาส 1 จะเป็นโลวซีซั่น ซึ่งเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ที่เป็นไฮซีซั่น แต่ในเรื่องของวอลุ่มที่ได้นั้นไตรมาส 1 ที่จริงแล้วดีกว่าไตรมาส 4 จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่าในครึ่งปีหลังจะสามารถ “เทิร์นอะราวด์” ได้