CKP อัพเป้าใหม่ 7.40 บาท รับโครงการหลวงพระบางชัดเจน-ธุรกิจเข้าช่วงไฮซีซั่น

CKP อัพเป้าใหม่ 7.40 บาท รับโครงการหลวงพระบางชัดเจน-ธุรกิจเข้าช่วงไฮซีซั่น ลุ้นกำไรปีนี้แตะ 2.2 พันลบ.


บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (5 พ.ค.2565) ว่า บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.40 บาท (เดิม5.70 บาท) จากการรวมโครงการหลวงพระบางเจ้า มาในประมาณการหลังลงนาม MOU Tariff กับ EGAT แล้วเสร็จ ประเมินเพิ่มมูลค่าอีก 1.70 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้คาดทำกำไรปกติไตรมาส 1/2565 ที่ 62 ล้านบาท ( 40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน,ลดลง 49% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) แม้ประเมินส่วนแบ่งกำไรจากโครงการไซยะบุรีกลับมา มีกำไรราว 30 ล้านบาท (ขาดทุน 42 ล้านบาท ไตรมาส1/2564) จากการผลิตไฟฟ้าที่ เพิ่มขึ้น 19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถูกกดดันจากโครงการน้ำดื่ม 2 ซึ่งแจ้งผลิตไฟน้อยลงราว 19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโครงการ BIC ซึ่งถูกต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นกว่า 102% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คอยกดดัน ส่วนไตรมาสก่อนหน้า ลดลงจากปัจจัยฤดูกาลโรงไฟฟ้าพลังน้ำ

โดยเบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ราว 2.2 พันล้านบาท (โต 9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ประเมินผลประกอบการจะปรับตัวขึ้นโดดเด่นในไตรมาส 2-3 จากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ในขณะที่พยากรณ์อากาศยังคงแนวโน้มปี 2565 มีสภาพ อากาศปกติ ราคาหุ้น outperform SET ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราว 8% คาด มาจากการตอบรับการลงนาม MOU Tariff โครงการหลวงพระบางเป็นที่ เรียบร้อย

ทั้งนี้ประเมินราคาหุ้นจะยัง outperform SET ต่อไปจากการเข้าสู่ ช่วง high และ peak season ของโรงไฟฟ้าหลักในไตรมาส 2 ต่อเนื่องไปไตรมาส 3 ทั้งนี้อิงข้อมูลสถิติย้อนหลัง 8 ปี (ตั้งแต่ CKP เข้าตลาดฯ) พบว่าราคาหุ้น ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 30% จากในช่วงเริ่มไตรมาส 2 จนจบไตรมาส 3

Back to top button