พาราสาวะถี
สิ่งที่จะปฏิเสธไม่ได้คงเป็นเรื่องที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.บอกว่ามีความฝันจะทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้
เป็นไปตามที่กระบอกเสียงรัฐบาลตอบคำถามนักข่าวแทนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนั่นแหละ “ทราบว่าขณะนี้ยังไม่ได้ไป” กับปมที่ ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย นัดหมายกินข่าวกับพรรคฝ่ายค้านในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ มันอยู่ในภาวะน้ำท่วมปาก แต่ว่าไม่ได้นิ่งเฉย เนื่องจากมีความพยายามโดยให้พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ในฐานะลูกพี่โดยตรงของผู้กองมันคือแป้ง สั่งให้เด็กในคาถายุติความเคลื่อนไหวดังกล่าว เพราะมันสะเทือนกับเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างหนัก
ทั้งที่รู้กันอยู่แล้ว เหล่านี้คือหมากเกมทางการเมือง สร้างแรงกระเพื่อมเพื่อบรรลุข้อเรียกร้อง เมื่อทุกอย่างได้ตามที่ต้องการก็จบกันไป ไม่ว่าจะติดใจหรือค้างคาใจอะไรกัน หากเลือกที่การอยู่ยาว เป้าหมายเพื่อการสืบทอดอำนาจให้นานที่สุด จำต้องยอมทุกอย่าง ส่วนสองพรรคร่วมรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้ง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และ อนุทิน ชาญวีรกูล สองหัวหน้าพรรคจะพูดไปในทิศทางเดียวกัน ยังเหนียวแน่นกับรัฐบาลนี้
ฝ่ายแรกนั้นไม่มีทางเลือก ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ต้องอยู่ให้ได้นานที่สุด เพื่อสะสมกระสุนทั้งส่วนตัวและเพื่อพรรค กับการใช้งานเต็มที่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะเดียวกันความคุกรุ่นภายในพรรคก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่รู้ว่าปลายทางจะจบลงแบบไหน อู๊ดด้ายังจะได้กุมบังเหียนสู้ศึกเลือกตั้งต่อหรือไม่ แม้บรรดาแกนนำระดับภาคทั้งหลายจะออกมาประกาศให้การสนับสนุน แต่เกมแห่งการช่วงชิงการนำนั้นยังเข้มข้น โดยเฉพาะฝ่ายที่เห็นว่าถ้าเดินกันไปแบบนี้ มีหวังจะได้ส.ส.ในระดับพรรคขนาดเล็กเท่านั้น
ทางด้านเสี่ยหนูกับภูมิใจไทย อยู่กันไปแบบนี้มีแต่ได้กับได้ ทั้งการเตรียมความพร้อมเพื่อการเลือกตั้งไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ถือเป็นพรรคการเมืองอันดับต้น ๆ ที่พร้อมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น เวลาที่ทอดยาวออกไป ท่ามกลางความขัดแย้งของพรรคสืบทอดอำนาจ และการเกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรคเก่าแก่ ได้ทำให้พวกที่อึดอัดและมองเห็นหนทางข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร เลือกที่จะตัดสินใจเปลี่ยนสีเสื้อ และยี่ห้อภูมิใจไทยถือว่าได้รับความนิยม เนื้อหอมสุด ๆ
ประเด็นการต่อรองทางการเมืองสำหรับภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ถือว่าเลยจุดนั้นไปแล้ว ยิ่งภูมิใจไทยอนุทินไปไกลถึงขนาดกล้าการันตีเรื่องจำนวนส.ส.ที่จะสนับสนุนให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ ถือว่าเป็นผู้กุมความได้เปรียบ กำหนดชะตากรรมของรัฐบาลสืบทอดอำนาจก็ว่าได้ ความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหลายไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ดูแลคือพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.จะต้องไปเคลียร์กันเอง
เรื่องพรรค์นี้น้องเล็กจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ หากความสัมพันธ์ยังหวานแนบแน่นเหมือนเดิมก็ไม่เป็นปัญหา เมื่อไม่รักดูดดื่มกันเหมือนเดิมแล้วพี่ใหญ่จึงออกอาการเท จนกลายเป็นความเคลื่อนไหวของพรรคเล็กเหล่านั้น และส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาล แม้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะบอกว่าปล่อยให้วิ่งกันไปเดี๋ยวก็เหนื่อยเอง แต่ในความจริงก็รู้กันอยู่ว่ามีบางคนวิ่งกันขาขวิดเพื่อไม่ให้เกิดภาพที่ทำให้ท่านผู้นำโมโห
ในทางกลับกันผลงานของรัฐบาลที่ประกาศจัดงานโชว์ใหญ่โตระหว่างวันที่ 19-20 พฤษภาคม ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน และยังจะมีการจัดเวทีถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม เหมือนเป็นเวทีสะท้อนความต้องการ แสดงความเห็นของภาคประชาชนเพื่อให้รัฐบาลได้นำไปปรับแก้นั้น มีการมองว่าน่าจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเสียมากกว่า รู้กันอยู่ว่าที่จัดกันนั้นแค่สร้างภาพ และกลุ่มที่ถูกเชิญก็ไม่ใช่กลุ่มความเดือดร้อนที่แท้จริง
สิ่งที่จะปฏิเสธไม่ได้คงเป็นเรื่องที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.บอกว่ามีความฝันจะทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ แค่เท่านี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่า 8 ปีที่ผ่านมานั้น คนที่บอกบริหารประเทศไม่เห็นยากตรงไหน ไร้สติปัญญา และไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาให้กับคนยากจน ผู้มีรายได้น้อย นอกจากจะลืมตาอ้าปากไม่ได้แล้ว เกษตรกรและคนยากคนจนยังเดือดร้อนจากภาระหนี้สินเพื่อนำมาใช้ในการประกอบอาชีพและใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหนักกว่าเดิม
อย่าอ้างว่าทุกคนต้องรู้จักพอเพียง ไม่ใช้จ่ายเกินตัว หากพูดได้แค่นี้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีผู้นำและรัฐบาลมาบริหาร เห็นกันอยู่ว่าภาระต้นทุนทางการผลิตของเกษตรกรนั้นสูงมาต่อเนื่อง สิ่งที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและผู้ที่เกี่ยวข้องทำได้คืออ้างแต่กลไกตลาด เป็นเรื่องจากต่างประเทศที่ไม่สามารถควบคุมได้ ในขณะที่การยกระดับราคาของสินค้าทางการเกษตรก็ไม่สามารถทำได้ สินค้าที่มีราคาแพงก็เกิดจากห่วงโซ่ในการผลิตมีปัญหา เกษตรกรไม่ได้รับอานิสงส์ใด ๆ ที่ได้เห็น ๆ คือพ่อค้าและนายทุน
ดังนั้น จึงไม่ผิดที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจจะบอกว่ามีความฝัน เพราะมันเป็นได้แค่ฝันจริง ๆ ได้ยินแบบนี้ไม่ว่าจะเกษตรกรหรือคนมีรายได้น้อยคงสะดุ้งโหยง วิสัยทัศน์ผู้นำแค่ให้ลืมตาอ้าปากได้ ทั้งที่รัฐบาลในอดีตที่ผ่านมามีการประกาศไปถึงว่านอกเหนือจากยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรแล้ว จะต้องมีรายได้ที่อยู่ในระดับเหลือเก็บกันแล้ว ไม่เพียงเท่านั้นการเที่ยวโพนทะนาว่าทุกอย่างดีขึ้นแล้ว กลับสวนทางกับสิ่งที่ตัวเองพูดในที่ประชุมครม.
ในการประชุมวันวานผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจบอกในที่ประชุมว่า กำลังซื้อของรัฐลดลง เงินเฟ้อสูงขึ้น ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคลงทุน ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงผู้บริโภค หรือภาคประชาชน มีแต่ต้นทุนชีวิตที่จะต้องสูงขึ้น เพราะทุกอย่างที่เพิ่มขึ้นนั้นจะถูกผลักมาให้ประชาชนเป็นผู้แบกรับทั้งสิ้น ยิ่งในยุครัฐบาลสืบทอดอำนาจก็รู้กันอยู่ว่า อยู่กันได้แบบไร้แรงกระเพื่อมแบบนี้จากการหนุนของใคร กลไกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคเผด็จการและเผด็จการสืบทอดอำนาจ หากสแกนกันให้ละเอียดแล้วจะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่เอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัว นายทุนเป็นด้านหลักแทบทั้งสิ้น