FSSIA เชียร์ซื้อ BANPU เป้า 18.80 บ. หลังโชว์งบ Q1 โตกระฉูด รับราคาขายถ่านหินพุ่ง

FSSIA เชียร์ซื้อ BANPU  เคาะราคาเป้าหมายที่ 18.80 บ. หลังโชว์กำไรหลักไตรมาส 1/65 โตกระฉูด 4 เท่าตัว สูงกว่า "บลูมเบิร์กคอนเซนซัส" อยู่ 6% ขานรับราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้น


นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมิน บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ว่า กำไรหลักในไตรมาส 1/2565 ที่ 9.4 พันล้านบาท ลดลง 10% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 417% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนนั้นต่ำกว่าฝ่ายวิเคราะห์คาดอยู่ 4% แต่สูงกว่าบลูมเบิร์กคอนเซนซัสอยู่ 6% หากรวม non-recurring gain มูลค่า 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1.03 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 194% จากไตรมาสก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 569% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดยในไตรมาส 1/2565 BANPU มีขาดทุนสุทธิจากอนุพันธ์ทางการเงิน จำนวน 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก 215 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4/2564 โดยปัจจัยหลักมาจากสัญญาแลกเปลี่ยนราคาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้า จำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากสัญญาแลกเปลี่ยนราคาซื้อขายก๊าซล่วงหน้า แบ่งเป็นผลขาดทุนที่รับรู้แล้ว 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และที่ยังไม่รับรู้อีก 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะเดียวกันธุรกิจถ่านหินเติบโตขึ้นจากราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่สูงขึ้น ส่วนเหมืองถ่านหินในประเทศจีนรายงานส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นจำนวน 47.74 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในประเทศจีนรายงานผลกำไร จำนวน 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วน EBITDA อยู่ที่ 1.97 หมื่นล้านบาท ลดลง 8% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 129% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากธุรกิจถ่านหิน นอกจากนั้นแล้ว BANPU ยังรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุน 47.5% ในกลุ่มบริษัท Sunseap จำนวน 179 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถ่านหินปริมาณการขายถ่านหินลดลง 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และ 12% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 6.4 ล้านตันในไตรมาส 1/2565 จากปริมาณการขายของบริษัทย่อย Centennial Coal Company Limited (CEY) ลดลง 33% จากไตรมาสก่อนหน้าและลดลง 43% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1.5 ล้านตัน เนื่องจากมีการย้ายเครื่องจักรของเหมือง Mandalong และ Springvale ปริมาณการขายถ่านหินในอินโดนีเซียอยู่ที่ 4.3 ล้านตัน ลดลง 19% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สืบเนื่องจากปริมาณฝนที่ตกหนัก

โดย ASP ของถ่านหินเพิ่มขึ้นแตะ USD130.5/t เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 104% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจาก ASP ของธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แตะ USD151.1/t เมื่อเทียบกับต้นทุนถ่านหินที่เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แตะ USD53.3/t จากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ASP ของ CEY เพิ่มขึ้นแตะ AUD135.8/t เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ราคาถ่านหินออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้นเป็น AUD126.2/t เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อนหน้า มาจากต้นทุนการขุดที่สูงขึ้น

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยของถ่านหินอยู่ที่ 52% ในไตรมาส 1/2565 สืบเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นของ บริษัทย่อย PT. Indo Tambangraya Megah Tbk (ITMG) มาอยู่ที่ 65% และ CEY ที่ 7% โดยก๊าซธรรมชาติจากหินดินดาน (Shale Gas) มีปริมาณการขายที่ลดลงมาอยู่ที่ 60bcf ลดลง 5% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากช่วงโลว์ซีซั่น

อย่างไรก็ตาม ASP ก๊าซลดลง  9% จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ USD4.6/mcf เมื่อเทียบกับต้นทุนที่ USD1.31/mcf ทำให้มีอัตรากำไรขึ้นต้นลดลงจาก 63% ในไตรมาส 4/2564 มาอยู่ที่ 55%

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ ซื้อ BANPU ที่ราคาเป้าหมาย 18.80 บาท จากผลกำไรหลักที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งกว่า 4 เท่าตัว

Back to top button