SAPPE ยอดขายตปท.บูม ดันกำไร Q1 พุ่ง 83% เร่งเครื่องผลิตเต็มสูบ ปักธงรายได้ปีนี้โต 20%

SAPPE ยอดขายตลาดต่างประเทศบูม ดันกำไร Q1 โต 83% รุกเร่งเครื่องผลิตเต็มสูบรองรับดีมานด์ ปักธงรายได้ปีนี้โต 15-20%


นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,142.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.90% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 27.60% จากไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ 156.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 174% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานทั้งรายได้และกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High)

โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากการขยายตัวของตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปมีการเติบโตสูงถึง 136%, ทวีปเอเซียเติบโต 77% และตะวันออกกลางเติบโต 58% โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ช่องทางห้างค้าปลีกในหลายประเทศหลักของทวีปยุโรปได้ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับครอบคลุมถึงผู้บริโภควงกว้างขึ้นอย่างมาก

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเห็นสัญญาณการบริโภคฟื้นตัวอย่างชัดเจนในทวีปเอเชียและตะวันออกกลาง ทำให้มียอดคำสั่งซื้อภาพรวมในทุกภูมิภาคดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดต่างประเทศได้แก่ เครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้ เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ พร้อมทั้งคาดการณ์ยอดขายในปีนี้จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฤดูกาลขายของบริษัทฯ (Seasonal) ปกติจะอยู่ที่ไตรมาส 2 และ 3 ส่งผลให้ประมาณการยอดขายต่างประเทศทั้งปีคาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางสถานการณ์ราคาค่าระวางการขนส่งสินค้าที่ยังคงสูงอยู่

สำหรับตลาดในประเทศ เนื่องจากข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตที่ต้องรองรับการขยายตัวของต่างประเทศ ส่งผลให้มีการปรับแผนการทำงานและงบประมาณบางส่วนไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ จึงยังไม่ได้เห็นการออกสินค้า, กิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ หรือการเติบโตของตลาดในประเทศไตรมาสนี้ โดยยังคงมีแผนที่จะเริ่มทยอยออกสินค้าใหม่และทำการตลาด O2O (Online to Offline Marketing) ทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,712.77 ล้านบาท พร้อมปรับกลยุทธ์ NPD โดยลดจำนวน SKUs สำหรับสินค้าในประเทศลง แต่เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อขยายสู่เครือข่ายช่องทางการขายที่บริษัทฯ ทำตลาดไว้กว่า 90 ประเทศในปีต่อๆ ไป

ตลาดส่งออกของเรามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาก เราไม่ได้แปลกใจที่ตลาดใหญ่ในปัจจุบันของ Sappe อย่างทวีปเอเชียหรือภูมิภาคตะวันออกกลางเติบโตได้ดี เนื่องจากเราทำตลาดมานานและเห็นแนวโน้มที่เป็นบวกตั้งแต่ปลายปี 2564 แต่การที่สินค้าของเราสามารถเข้าห้างค้าปลีกช่องทางหลักในยุโรปได้ เติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีคำสั่งซื้อซ้ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แสดงว่าสินค้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแม้แต่กับคนยุโรปเองก็ยังชื่นชอบ เราจึงเชื่อว่านี่เป็นหลักไมล์สำคัญของเราอีกก้าวหนึ่ง ที่จะนำแบรนด์ของคนไทยไปสู่ Global Brand อย่างแข็งแรงและยั่งยืนในทุกๆ ทวีปทั่วโลก” นางสาวปิยจิต กล่าว

Back to top button