ดาวโจนส์ปิดลบ 50 จุด หลัง “เยลเลน” ส่งสัญญาณขึ้นดบ.เดือนหน้า
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณชัดเจนในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (4 พ.ย.) ที่ 17,867.58 จุด ลดลง 50.57 จุด หรือ -0.28%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,142.48 จุด ลดลง 2.65 จุด หรือ -0.05% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,102.31 จุด ลดลง 7.48 จุด หรือ -0.35%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากนางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค. ทั้งนี้ นางเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวในอัตราที่เพียงพอต่อการสร้างความคืบหน้าในตลาดแรงงาน และช่วยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง และหากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดได้รับให้การสนับสนุนการคาดการณ์ดังกล่าว ก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่เรายังไม่ได้ทำการตัดสินใจใดๆในเรื่องนี้”
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 182,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของ ISM เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.1% ในเดือนต.ค. จากระดับ 56.9% ในเดือนก.ย.
หุ้นเฟซบุ๊กปรับตัวขึ้นกว่า 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด, หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ หุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลงอย่างน้อย 1% ขณะที่หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 2% ส่วนหุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ร่วงลงรุนแรงกว่า 10% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2558 ขณะที่หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ร่วงลง 2% และหุ้นเวียคอม ดิ่งลง 6.6%
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้น 183,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 3/2558 ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.ย.