“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” พุ่งเฉียด 400 จุด ขานรับงบบจ. แกร่ง-จีนคลายล็อกดาวน์
“ดาวโจนส์ฟิวเจอร์” พุ่งเฉียด 400 จุด ขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแกร่ง-จีนคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้หลังบังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 400 จุดในวันนี้ ขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ณ เวลา 19:07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 383 จุด หรือ 1.2% สู่ระดับ 32,542 จุด
โดยราคาหุ้นโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 3% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาสแรกสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
อีกทั้งนักลงทุนยังขานรับปัจจัยบวกจากการที่เซี่ยงไฮ้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในชุมชนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ซึ่งถือเป็นการบรรลุเป้าหมายสำคัญที่ทางการเซี่ยงไฮ้กำหนดไว้เพื่อเป็นเกณฑ์สำหรับการเริ่มต้นผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์
นอกจากนี้นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.
ขณะเดียวกัน ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดขนาดงบดุลของเฟด (Quantitative Tightening : QT)
ทั้งนี้นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนา Future of Everything Festival ซึ่งจัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ในวันนี้เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายโจน คันลิฟฟ์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็จะกล่าวสุนทรพจน์ในงานสัมมนาดังกล่าวเช่นกัน
อีกทั้ง FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
ขณะเดียวกัน เฟดเตรียมทำ QT โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน