JMART แย้ม Q2 โตเด่น-ร่วมทุน KBANK ลุยบริหารหนี้เสีย! มั่นใจปีนี้กำไรเข้าเป้า 50%
JMART แย้มไตรมาส 2/65 โตเด่น-ร่วมทุน KBANK ลุยบริหารหนี้เสีย เดินหน้าเต็มรูปแบบ! ย้ำเพิ่มทุน 3 หมื่นลบ. กดต้นทุนการเงินลด-หนุนมาร์จิ้นพุ่ง มั่นใจปีนี้กำไรโตเข้าเป้า 50%
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 18 พ.ค.2565 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
ทิศทางไตรมาส 2/65 โตเด่น และช่วงที่เหลือปี 65 โตต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบของ JMART ถ้าดูย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2563) จะเติบโต 50% และในปี 2563-2564 ลักษณะคล้ายๆกันสามารถเติบโต 55% และอย่าลืมว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเผชิญการระบาดโควิด-19 ในกลุ่มก็สามารถเติบโตได้ และ ในปีนี้วางเป้าหมายเติบโต 50% ดังนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ที่ในไตรมาสแรกออกมาต่ำ แต่หลังจากนั้นผลงานไตรมาส 2 ,ไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะเติบโตขึ้นเป็นเป็นลำดับ โดยเฉพาะไตรมาส 4 จะเติบโตสูงสุด
เงินเพิ่มทุน 3 หมื่นล้าน ดันมาร์จิ้นพุ่ง มั่นใจกำไรปีนี้โตเข้าเป้า 50%
อีกทั้งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาบริษัทได้เงินเพิ่มทุน 3 หมื่นล้านบาท ตรงนี้จะเริ่มส่งผลในปีนี้และใน 2-3 ปีข้างหน้า มีอัตราการเติบโตจากเงินเพิ่มทุนจะมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และได้เงินเพิ่มทุน 3 หมื่นล้านบาท ถือเป็นต้นทุนได้มาไม่มีภาระดอกเบี้ย และช่วยลดต้นทุนทางการเงินลดลง คาดว่าจะสร้างอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit margin) ได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา และจะทำให้บริษัททยอยรับรู้กำไร จากการจ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงจากการทยอยชำระหุ้นกู้ ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่ากำไรปีนี้จะเติบโต 50% ตามแผน
สำหรับ JMART การเพิ่มทุนให้ บริษัท ยูซิตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ U และ บริษัท วีจีไอ จำกัด(มหาชน) หรือ VGI สัดส่วนรวมประมาณ 25% แต่อัตราการเติบโตกำไรของบริษัทประมาณ 50% เพราะฉะนั้นเรื่อง dilution effect ไม่เกิดขึ้นแน่นอน และ มั่นใจ dilution effect ไม่ใช่ประเด็น
ภาวะเงินเฟ้อกระทบการสร้างมูลค่าเพิ่ม JMART ในช่วงต่อจากนี้หรือไม่
บริษัทผ่านช่วงวิกฤตโควิดในช่วง 2 ปี แต่บริษัทสามารถเติบโตได้คือการทำธุรกิจเป็นกลุ่มและช่วยเหลือกลุ่มบริษัททั้งหมด ทำงานลดต้นทุน ในเวลาเดียวกันก็พยายามเพิ่มรายได้ ทำให้บริษัทมีการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับตลาด และในแง่ของการเติบโต
ความคืบหน้าจัดตั้ง JV ร่วมแบงก์อื่น ลุยบริหารหนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
สำหรับจัดตั้ง JV ร่วมกับแบงก์อื่นเพิ่มเติม เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการงานติดตามหนี้และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ(AMC) เชื่อว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่ทั้งหมดอยู่กับธนาคารที่จะเข้ามา ส่วนการร่วมทุนธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK บริหารหนี้เสียเดินหน้าเต็มรูปแบบ ดังนั้นเมื่อเวลารูปแบบทำ JV ร่วมกันเปิดออกมาก็น่าจะชัดเจน อย่างไรก็ตามมองว่าการทำ JV ร่วมกับแบงก์หลายๆราย เชื่อว่าจะทำให้เห็นความแตกต่าง และเป็นประโยชน์การบริหารทรัพย์สินด้อยคุณภาพ ซึ่งเวลานี้สถาบันมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว