ธ.ก.ส.เตรียมวงเงินสินเชื่อ 1.5 หมื่นลบ.ออกมาตรการช่วยภัยแล้ง-ยืดชำระหนี้

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินงานตามโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2558/59 จำนวน 4 โครงการ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้งให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้มีรายได้จากกิจกรรมอื่นทดแทน โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบวิกฤตภัยแล้งในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพฯ กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ตาก นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พิจิตร พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง อุตรดิตถ์ และพื้นที่ภัยแล้งทั่วไป 55 จังหวัด


นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินงานตามโครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2558/59 จำนวน 4 โครงการ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้งให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้มีรายได้จากกิจกรรมอื่นทดแทน โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบวิกฤตภัยแล้งในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพฯ กำแพงเพชร ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ตาก นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พิจิตร พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง อุตรดิตถ์ และพื้นที่ภัยแล้งทั่วไป 55 จังหวัด

สำหรับ 4 โครงการดังกล่าวประกอบไปด้วย โครงการขยายระยะเวลาชำระหนี้สินเดิมลูกค้า ธ.ก.ส. โดยธนาคารจะพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้เดิมให้แก่เกษตรกร ออกไปเป็นระยะเวลาไม่เกิน 24 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง และสำหรับลูกค้า ธ.ก.ส.ที่อยู่ในพื้นที่วิกฤตภัยแล้งในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด ที่มีหนี้เงินกู้เดิมรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท จะได้รับการลดดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3 ต่อปี โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกร 1.5% ต่อปี และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยแทนเกษตรกร 1.5% ต่อปี

โครงการสินเชื่อเพื่อปรับปรุงระบบการผลิตด้านการเกษตรเพื่อพัฒนาระบบน้ำ หรือเพื่อปรับเปลี่ยนการผลิตหรือประกอบอาชีพเสริมด้านการเกษตรวงเงินให้สินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท วงเงินกู้รายละไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 10 ปี กรณีพิเศษไม่เกิน 12 ปี โดยปลอดชำระต้นเงินไม่เกิน 3 ปีแรก คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR – 2 ต่อปี (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7 %ต่อปี) หรือเท่ากับ 5% ต่อปี

โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสร้างงานในชุมชนวงเงินให้สินเชื่อรวม 2,500 ล้านบาท วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR – 2 (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 7% ต่อปี) หรือเท่ากับร้อยละ 5 ต่อปี ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 5 ปี โดยใช้ทางเลือกอาชีพเสริมของกระทรวงแรงงาน และโครงการสินเชื่อสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนวงเงินให้สินเชื่อรวม 2,500 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายวิสาหกิจชุมชน 3,000 แห่ง สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มละไม่เกิน 1 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยในอัตรา 4% ต่อปี เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้วิสาหกิจชุมชนระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือน และหากเป็นการลงทุนมีระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 5 ปี

“ธ.ก.ส.ได้เตรียมมาตรการดังกล่าว เพื่อดูแลผลกระทบจากภัยแล้งให้กับพี่น้องเกษตรกร จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรคลายความวิตกกังวล และหากมีปัญหาขอให้พูดคุยปรึกษากับพนักงานของธนาคารที่สาขาได้ทันที” นายลักษณ์กล่าว

 

Back to top button