โบรกเชียร์ “ซื้อ” MINT เป้า 37 บ. ชูเด่นสุดกลุ่มโรงแรม รับโซนยุโรปฟื้น-ยอดขายสาขาแกร่ง

โบรกเชียร์ "ซื้อ" MINT เป้า 37 บ. ชูเด่นสุดกลุ่มโรงแรม รับโซนยุโรปฟื้น-ยอดขายสาขาแกร่ง และสถานะเงินสดดีขึ้น


บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19 พ.ค.2565) ว่า บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT มีหลังจากสถานการณ์ในยุโรปเริ่มฟื้นตัว เลือกเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงแรม ราคาเป้าหมาย 37 บาท ประเด็นสำคัญจากการประชุมมุมมองบวกเล็กน้อยจากการประชุมมีดังนี้

ะระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19 พ.ค.2565) มีมุมมองบวกเล็กน้อยจากการปรชุมหลังจากสถานการณ์ในยุโรปเริ่มฟื้นตัว เลือก MINT เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงแรม แนะซื้อราคาเป้าหมาย 37 บาท ประเด็นสำคัญจากการประชุมมีดังนี้

1.ธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวเด่น โดยเฉพาะในยุโรป: ผู้บริหารตอกย้ำแนวโน้มที่ดีในกลุ่ม โรงแรมในยุโรป ซึ่งมีอัตราการเข้าพักแตะ 63% ในเดือนเมษายน จาก 40% ในไตรมาส 1/65 เนื่องจากการระบาดของ Omicron เริ่มคลี่คลาย ในแง่ของราคา ห้องพัก ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ในเดือนเมษายนสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกัน ในปี 62 ถึง 11% สะท้อน Revear ต่ำกว่าเดือนเมษายน 62 เพียง 3% เชื่อว่าแนวโน้มที่โตแกร่งจะดำเนินต่อไปในไตรมาส 2/2565

สำหรับในประเทศไทย จากการผ่อนคลาย กฏเกณฑ์การเข้าประเทศและช่วงวันหยุดสงกรานต์ น่าจะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมฟื้น ตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 2/2565 แต่ไม่เท่าที่ยุโรป โดยในเดือนเมษายน อัตราการเข้าพัก อยู่ที่ 46% ส่วน RevPar น่าจะอยู่ที่กึ่งหนึ่งของเดือนเมษายน 62

2.SSSG น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง: ในเดือนเมษายน การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในประเทศไทยอยู่ที่ 10.6% (12.4% ในไตรมาส1/2565) และยอดขายรวม (TSSG) เติบโตแข็งแกร่ง 19.4% (19.8% ในไตรมาส 1/2565) ส่วนในประเทศจีน SSSG ไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 2.2% และเดือนเมษายนอยู่ที่ -36.9% ผลกระทบจากการล็อคดาวน์ โดยผู้บริหารคาดว่าการ ล็อกดาวน์จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน ขณะที่ในออสเตรเลีย SSSG อยู่ที่ 5.1% ในไตรมาส 1/65 และดีขึ้นเป็น -3.5% ในเดือนเมษายน เชื่อว่า หากจีนคลายล็อกดาวน์ น่าจะเป็นผลบวกต่อการฟื้นตัวของ SSSG ของ MINT ในไตรมาส 2/65

3.ธุรกิจร้านอาหารอาจได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ: ผู้บริหารเผยว่า ความสามารถในการทำกำไรของร้านอาหารอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น และจะบรรเทาผลกระทบโดย 1) ควบคุมต้นทุนให้ดีขึ้น และ 2) ขึ้นราคาอาหาร อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของเรา อาจมีผลกระทบเชิงลบในไตรมาส 2/65 จาก ต้นทุนที่สูงขึ้น

4.สถานะเงินสดดีขึ้นจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น: ในไตรมาส 1/65 กระแสเงินสด จากการดำเนินงานอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท และน่าจะแข็งแกร่งพอสำหรับช่วงที่เหลือ ของปี จากการฟื้นตัวในยุโรปและน่าจะเพียงพอสำหรับการลงทุน 6 พันล้านบาทในปีนี้

Back to top button