EKH ลั่นจีนคลายล็อคดาวน์ ดัน “ศูนย์มีบุตรยาก” รายได้โป่ง-จับตา ก.ค. “รพ.คูน” เปิดบริการ

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 20 พ.ค.2565 โดยมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้

ปัจจัยหนุนจากการคลายล็อคดาวน์จากจีน

แน่นอนว่าทางโรงพยาบาลรอโอกาสจากการคลายล็อคดาวน์ของประเทศจีนนี้อยู่แล้ว พร้อมคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด 1-2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่คนจีนจากมณฑลบางมณฑลเริ่มสามารถเดินทางเข้าไทยได้ ทั้งนี้ถ้าหากรัฐบาลจีนคลายล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ มองว่าคนจีนจำนวนมากจะเดินทางมาใช้บริการของศูนย์ผู้มีบุตรยากอย่างแน่นอน โดยย้อนกลับไปเมื่อก่อนเกิดโควิด-19 หรือก่อนล็อคดาวน์ที่มีประชาชนเข้ามาใช้บริการมากกว่า 50-60 เคสต่อเดือน

เนื่องจากที่รัฐบาลจีนมีนโยบายกระตุ้นให้ประชากรมีลูกคนที่ 2-3 จะได้สิทธิซื้อบ้านเพิ่มหรือสวัสดิการอื่นจะเป็นปัจจัยหนุนให้ชาวจีนหันมาใช้บริการของศูนย์ผู้มีบุตรยากอย่างแน่นอนโดยเฉพาะสาขาพระราม 9

ทั้งนี้ก่อนการแพร่ระบาดโควิด ศูนย์ผู้มีบุตรยาก สามารถทำรายได้ถึง 10% ของรายได้ทั้งหมด หรือในสถานการณ์ปกติก่อนโควิดเคยกวาดรายได้สูงถึง 200 ล้านบาท

ทิศทางของธุรกิจในปี 2565

ณ ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2565 ตัวเลขของการใช้บริการโควิดปรับตัวลดลงไปเยอะ เทียบกับช่วงไตรมาสแรกที่มีการแอดมิทเข้าโรงพยาบาลในจำนวนที่ล้นหลาม ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างที่จังหวัดสมุทรสาคร ตอนโควิดระบาดพีคๆ มีเคสมาใช้บริการวันละมากกว่า 100 เคส แต่ ณ ปัจจุบันมีผู้มาใช้บริการไม่ถึง 50 เคส แต่ในอีกแง่มุมอย่างการใช้บริการของผู้ป่วยทั่วไปก็เริ่มกลับมาใช้บริการมากขึ้น แต่จำนวนผู้ป่วยอาจยังไม่เท่ากับช่วงก่อนการแพร่ระบาด ซึ่งแน่นอนว่าช่วงต้นไตรมาส 2/2565 อาจมีผลประกอบการในกิจการโรงพยาบาลที่ลดลงตามสถานการณ์ของโควิดและตัวเลขอาจสูงกว่าไตรมาส 1 ไม่ได้ ทั้งนี้กิจการของโรงพยาบาลจะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในช่วงปลายไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เพราะประเทศไทยเข้าสู่ช่วงเปิดเทอมและเข้าฤดูฝนแล้วต่อด้วยหน้าหนาว จะเป็นช่วงที่ประชาชนประสบพบโรคภัยไข้เจ็บจำนวนมาก

ปัจจัยหนุนกำไรขั้นต้นผลประกอบการไตรมาส 1/2565

บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ โดยเปรียบเทียบแล้วในไตรมาส 1/2565 บริษัทสามารถทำรายได้จากการบริการทางการแพทย์ซึ่งเป็นในรูปแบบของเงินสดหรือเงินประกันมากกว่าปีที่แล้วที่ส่วนใหญ่จะได้เม็ดงานมาจากทางรัฐบาล

บทบาทของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ

คาดว่าจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะให้บริการคลอบคลุมเสมือนเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ รวมไปถึงการให้บริการทางการแพทย์กับกลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้าย หรือ “การตายอย่างสบาย” ซึ่งหมอเป็นตลาดที่มีโอกาสสร้างมูลค่าให้กับโรงพยาบาลได้ค่อนข้างมาก โดยจะเปิดเป็นโรงพยาบาลที่แยกออกมาจากเอกชัย โดยจะใช้ชื่อ “โรงพยาบาลผู้สูงอายุ คูน”

การเปิดทางให้ “รามคำแหง” มาร่วมลงทุน

สิ่งที่ทางโรงพยาบาลจะได้รับคือการซื้ออุปกรณ์จากรามคำแหงด้วยราคาพิเศษจากนโยบายของโรงพยาบาลรามคำแหงที่มีต่อกลุ่มบริษัทในเครือ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการร่วมมือกันให้บริการทางการแพทย์อาทิการปรึกษาหารือระหว่างแพทย์ รวมไปถึงการส่งต่อเคสผู้ป่วยที่จะมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนลดลงได้อย่างแน่นอน