เช็คสุขภาพหุ้นขุดบิทคอยน์
การดิ่งเหวแถบไม่เหลือมูลค่าของเหรียญมีชื่อ “LUNA” ของแพลตฟอร์ม Terra สะท้อนความเสี่ยงจากความผันผวนหนักของคริปโตเคอร์เรนซี
เส้นทางนักลงทุน
การดิ่งเหวแถบไม่เหลือมูลค่าของเหรียญมีชื่อ “LUNA” ของแพลตฟอร์ม Terra สะท้อนความเสี่ยงจากความผันผวนหนักของคริปโตเคอร์เรนซี ขณะที่มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศตัวชัดเจนในการเข้าลงทุนธุรกิจเหมืองขุด “คริปโตเคอร์เรนซี” หรือที่เรียกกันว่า “เหมืองขุดบิทคอยน์” เพราะหวังจะใช้เป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเพื่อต่อยอดจากธุรกิจที่ทำอยู่เดิม
“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ได้สำรวจข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า ในปัจจุบันมีบริษัทจำนวน 11 แห่งที่ประกาศจะทำธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ซึ่งบางบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้แล้ว ขณะที่บางบริษัทอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องขุดเหรียญฯ รวมทั้งพบว่าเหมืองขุดบิทคอยน์ สามารถพลิกฟื้นกำไรของบริษัทบางแห่งได้จากการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
โดย บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆที่ทำธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ซึ่งไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 96.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10.23 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 511.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 428.78 ล้านบาท
ทั้งนี้ JTS มีรายได้จากเหมืองขุดฯ 18.61032126 เหรียญบิทคอยน์ หรือ 25.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% เพราะราคาถัวเฉลี่ยของเหรียญฯในไตรมาส 1/2565 เท่ากับ 42,405.01 เหรียญดอลล่าสหรัฐ
JTS มีเครื่องขุดติดตั้งแล้ว 525 เครื่อง กําลังขุดรวม 50,020 TH/s และจะทยอยส่งมอบอีก 3,000 เครื่อง ทําให้ปลายปีนี้ จะมีเครื่องขุดส่งมอบแล้ว 3,525 เครื่อง กําลังขุดรวม 422,020 TH/s และเพิ่มเป็น 1,000,000 TH/s ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566
ด้าน บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 458.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 269.7 ล้านบาท เป็นรายได้ที่เกิดเหมืองขุดฯ 10.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% ZIGA เริ่มทำกิจการเหมืองขุดในเดือนธ.ค. 2564 มีต้นทุนสินทรัพย์ดิจิทัล 12.40 ล้านบาท ขณะที่ ZIGA มีกำไรสุทธิ 12.1 ล้านบาท ลดลง 60.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 30.30 ล้านบาท
บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA ไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 83.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33.32 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิเพิ่มเป็น 9.07 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 5.20 ล้านบาท
ทั้งนี้ UPA จับมือพาร์ทเนอร์ ทำเหมืองขุดในลาว ไม่เกิน 6,000 เครื่อง วงเงิน 820 ล้านบาท ได้รับผลประโยชน์เป็นเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีในสัดส่วน 60% ยังไม่เริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1ที่ผ่านมา
บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CWT ไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 79.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 55.49 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายและให้บริการ 481.67 ล้านบาท ลดลง 1.83% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 490.66 ล้านบาท
โดย CWT เตรียมลงทุนซื้อเครื่องขุด มูลค่า 150 ล้านบาท โดยชุดแรกจะทำ “Bitcoin Green Mining” 100 เครื่อง ภายในไตรมาส 2/2565 มองความผันผวนในตลาดคริปโตเคอเรนซีเป็นโอกาสซื้อเครื่องขุดฯราคาถูกลง
บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI ไตรมาส 1/2565 ขาดทุนสุทธิ 39.88 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8.63 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 374.74 ล้านบาท ลดลง 5.47 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน 377.05 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม SCI ยังไม่มีรายได้จากเหมืองขุดเพราะจะเริ่มติดตั้งเครื่องในไตรมาส 3/2565 จำนวน 195 เครื่อง วงเงิน 140 ล้านบาท
บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF ไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 420.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.63 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน 413.81 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเหลือ 12.25 ล้านบาท ลดลง 14.39 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.31 ล้านบาท ส่วนธุรกิจเหมืองขุดเหรียญได้ 2 สกุล คือบิทคอยน์ และอีเธอเรียม ซึ่งมีกำไรจากการวัดมูลค่าสินค้าคงเหลือ 0.08 ล้านบาท และ 2.06 ล้านบาท ตามลำดับ และมีมูลค่าลงทุนในเหมืองขุดเท่ากับ 27.62 ล้านบาท จากมูลค่าการลงทุน 80 ล้านบาท
บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เป็นรายแรกในไทยที่จะทำธุรกิจรูปแบบ Clean Cryptocurrencyใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด 100% ด้วยเงินลงทุน 700 ล้านบาท จะเริ่มเหมืองขุดในเดือนมิ.ย.นี้และติดตั้งเครื่องขุด 2,200 เครื่องในปี 2565 ขุดบิตคอยน์ได้ 50-55 BTC ต่อเดือน จะรับรู้รายได้ทันทีหลังติดตั้งเสร็จ ใช้ระยะเวลาคืนทุน 20-30 เดือน
ส่วนไตรมาส 1/2565 NRF มีรายได้จากการดำเนินงาน 603.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 471.70 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 28.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 15.21 ล้านบาท
บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN ลงทุนในบริษัท โคแมน คริปโต จํากัด วงเงิน 60 ล้านบาทเพื่อธุรกิจนี้ใช้เครื่องขุด (RIG) จำนวน 140 RIG ไตรมาส 1 COMAN ยังไม่มีรายได้จากเหมืองขุด ส่วนโคแมน คริปโต มีรายได้จากเหมืองขุด 8.94 ล้านบาท อย่างไรก็ตามไตรมาส 1/2565 ขาดทุนสุทธิ 9.37 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 5.37 ล้านบาท
บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 119.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.05% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 80.85 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 10.56 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 22.10 ล้านบาท มีกำไรจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล 2.34 ล้านบาท
บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT ไตรมาส 1/2565 มีกำไรสิทธิ 56.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.86% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 51.81 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 607.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ….% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 563.05 ล้านบาท อย่างไรก็ดี SMTลงทุนในเหมืองขุดบิทคอยน์มูลค่าไม่เกิน 150 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องระยะแรก 200 เครื่อง วงเงิน 40 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยติดตั้งเป็นระยะๆ
บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ล่าสุดที่ประกาศทำธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์วงเงิน 150 ล้านบาท จะทยอยลงทุนในไตรมาส 2/2565 เพื่อส่งเสริมให้บริษัทมีรายได้ต่อเนื่อง ขณะที่ไตรมาส 1/2565บริษัทมีกำไรสุทธิฟื้นตัวมาอยู่ที่ 1,205.35 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 65.17 ล้านบาท
ก็คงต้องจับตากันต่อไปว่า “เหมืองขุดบิตคอยน์” จะเป็นโอกาสหรือความเสี่ยงสำหรับบริษัทฯที่วาดหวังจะต่อยอดสร้างรายได้จากธุรกิจนี้