VGI เด้ง 6% ลุ้นกำไรปี 65/66 โต 70% ทะลุ 7 พันลบ. อานิสงส์ผู้โดยสารเพิ่ม-ศก.ฟื้นตัว
VGI ดีด 6% ลุ้นกำไรปี 65/66 โต 60-70% ทะลุแตะ 6.5 - 7 พันลบ. รับแรงหนุนผู้โดยสาร BTS เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ณ เวลา 11.22 น. อยู่ที่ระดับ 4.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.28บาท หรือ 5.98% ทำจุดสูงสุดที่ 5.15 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ 4.72 บาท มูลค่าซื้อขาย 434.49 ล้านบาท
โดยหลังจาก บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ผู้นำการตลาด Offline-to-Online (O2O) Marketing โซลูชั่นส์ บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจการจัดจำหน่าย ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2564/65 มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 65.2% คิดเป็น 4,098 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการควบรวมผลการดำเนินงานของ บริษัท Fanslink Communication Company Limited หรือ Fanslink เป็นระยะเวลา 8 เดือน
ทั้งนี้ ประกอบกับการฟื้นตัวของสื่อโฆษณานอกบ้าน และการเติบโตของกลุ่มธุรกิจบริการด้านดิจิทัล โดยธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้ 1,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้อยู่ที่ 1,514 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา VGI ประสบความสำเร็จในการขยายไปสู่ธุรกิจการจัดจำหน่าย ผ่านการลงทุนในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่หลากหลาย บริษัทจึงปรับแพลตฟอร์มธุรกิจจากธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจการจัดจำหน่าย เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต
ขณะที่ นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ VGI กล่าวว่า การดำเนินงานที่ต้องเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจการจัดจำหน่ายผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งช่วยให้ VGI สามารถนำเสนอบริการการตลาดแบบ O2O โซลูชั่นส์ ได้อย่างครอบคลุม
โดยพัฒนาการสำคัญของธุรกิจในปีที่ผ่านมาธุรกิจสื่อโฆษณา ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่แบรนด์ระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะสื่อ BTS Train Body ส่วนธุรกิจบริการชำระเงิน เดินหน้าขยายการให้บริการด้านดิจิทัลและออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
โดย บริษัท แรบบิท แคช จำกัด หรือ RCash ได้เปิดตัวทดลองแพลตฟอร์มบริการสินเชื่อดิจิทัล เพื่อนำเสนอบริการสินเชื่อแบบไร้รอยต่อ ในส่วนของ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด หรือ RCare ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำกว่า 70 ราย โดยมีเป้าหมายเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นนายหน้าประกันภัยอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้านบัตรแรบบิท
สำหรับปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 15 ล้านใบ ส่วนผู้ใช้ Rabbit LINE Pay มีจำนวนทั้งสิ้น 9.5 ล้านคน ด้านธุรกิจการจัดจำหน่าย มีความก้าวหน้าอย่างมาก จากการร่วมเป็นพันธมิตรกับ Fanslink และบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ Jaymart โดยล่าสุดได้เข้าลงทุน และมอบสิทธิการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์บน BTS Skytrain ให้แก่ บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE โดยธุรกรรมนี้จะช่วยให้ VGI สามารถใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O โซลูชั่นส์ วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคในพื้นที่เชิงพาณิชย์ระดับพรีเมียม เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอช่องทางการให้บริการต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดดียิ่งขึ้น
“ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่า ในปี 2565/66 VGI จะกลับมาเติบโตขึ้นอย่างน้อยที่ 60-70% และพลิกมาทำกำไรอีกครั้งแน่นอน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 6,500-7,000 ล้านบาท รับแรงหนุนของจำนวนผู้โดยสาร BTS และการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยให้ยอดขายสื่อโฆษณา และบริการด้านดิจิทัลดีขึ้น รวมถึงการควบรวมผลการดำเนินงานของ Fanslink ที่มีผลงานเติบโตอย่างโดดเด่นแบบเต็มปี ด้านงบประมาณการลงทุนบริษัทได้จัดสรรงบไว้อยู่ที่ 700 ล้านบาท เพื่อรองรับโอกาสที่จะเข้ามาต่อยอดความแข็งแกร่ง และเสริมสร้างการเติบโตให้กับ VGI ได้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต” นายเนลสัน กล่าว
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท VGI ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดรวมจำนวน 0.04 บาทต่อหุ้นในปี 2564/65 โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.02 บาทต่อหุ้นในเดือนมีนาคม 2565 ในขณะเดียวกันจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายจำนวน 0.02 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2564/65 โดยการจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายนี้ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565