เป้าบน 1,750 จุด

*เมื่อกำลังจะผ่านพ้นเดือนของการขายในไม่กี่อึดใจ “โมนิก้า” ก็ขอเม้าท์ถึงเดือนแห่งความหวังกันสักหน่อย เพราะข้อมูลที่รวบรวมมาจากที่ต่าง ๆ ล้วนพูดถึงเป้าด้านบนในระดับต่าง ๆ กันมากขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ 1,650 จุด ต่อจากนั้นก็มีขยับขึ้นไปถึงบริเวณ 1,700 จุด หรือบางกระแสก็ให้เป้าสูงถึงระดับ 1,750 จุด ล้วนเป็นประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนเกิดอาการ “คันปาก” อยากเม้าท์สุด ๆ ในห้วงเวลานี้เจ้าค่ะ

*ประกอบกับ “โมนิก้า” ชอบมองเรื่องต่าง ๆ ไปข้างหน้า 3 เดือน 6 เดือน จึงเกิดความรู้สึกว่า เป้าบนไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม เพราะตลาดหุ้นไทยผ่านช่วงหนัก ๆ มาได้แล้ว รวมทั้งแนวรับต่าง ๆ ก็ทดสอบแรงขายอย่างโชกโชน หรือแม้กระทั่งต้นทุนการเล่นรอบใหม่ของนักลงทุนสถาบันก็สูงขึ้น จึงกลายเป็นบันไดที่พาดให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปหาเป้าบน ซึ่งเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนหัวใจพองโตขึ้นมาในทันทีไงล่ะคะ

*ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักเล่นต้องปรับแนวทางการเล่นล้อไปตามกระแส และการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,638.75 จุด บวกไป 5.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.60 หมื่นล้านบาท เลยกลายเป็นเรื่องปกติเมื่อถึงสุดสัปดาห์ และทันทีที่เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ก็จะมีลุ้นขึ้นแรงอีกตามเคย “โมนิก้า” ถึงพยายามนำเสนอหุ้นทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อให้แฟนคลับได้เก็บไปเป็นการบ้านว่า หุ้นตัวนั้นมีสตอรี่ดีเหมือนที่เม้าท์ให้ฟังอ๊ะป่าว?

*รายแรกที่อยากนำเสนอแก่เพื่อนพ้องนักลงทุน เพราะผ่านการโดนทุบเป็นเวลาหลายเดือน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น IRPC เพื่อชี้ให้เห็นการวิ่งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.38 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 489 ล้านบาท มันคือภาพสะท้อนการปลดล็อกแรงขายหรือเปล่า? ผนวกกับในช่วงครึ่งปีหลังมีความหวังที่จะได้เห็นการฟื้นตัวครั้งใหม่ จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าเล่นในแง่ของอัพไซด์เยอะเจ้าค่ะ

*ส่วนคนที่ถนัดเล่นสั้น และชอบอิงกระแส “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองหุ้น TSTH อีกสักครั้ง เพราะมองในแง่สตอรี่ราคาเหล็กพุ่ง และเชื่อกันว่า งบไตรมาส 2 จะออกสวยเช้ง ก็ไม่น่าแปลกใจที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดบริเวณ 1.42 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 6.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 111 ล้านบาท เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยวิ่งขึ้นไปแถว 1.65 บาท แต่หลังจากนั้นก็โดนสาดจนลงมานอนแถว 1.30 บาท..จำกันได้บ่!

*คล้ายกับกรณีของหุ้น AAV วิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.82 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 116 ล้านบาท ก็เป็นผลมาจากธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก จึงเกิดจินตนาการถึงผลงานครึ่งปีหลังจะแจ่มแมว “โมนิก้า” ถึงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เป็นเรื่องของความคาดหวังเป็นหลัก และมีลุ้นเห็นหุ้นวิ่งขึ้นไปหายอดเก่าบริเวณ 3.10 บาทอีกรอบก็เท่านั้นเองจ้า!

*สำหรับรายที่ “แรงจริง สุดจริง” ต้องยกให้กับ “จับเสือใส่ถังพลังสูง” อย่างหุ้น ESSO เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.95 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 411 ล้านบาท มีเรื่องกำไรสต๊อกน้ำมันเป็นตัวเดินเกมหลัก และยังได้แรงเสริมจากการเทรดของหุ้นอยู่บน P/E 5 เท่า “โมนิก้า” ถึงมองว่าช็อตนี้จะเล่นกันอีกนานเลยทีเดียว และตราบใดที่ราคาน้ำมันดิบยังไม่ต่ำ 100 เหรียญ ก็คงเคาะขวากันโลดพะยะค่ะ

*ส่วนรายที่มาเหนือเมฆจนตั้งตัวไม่ทัน “โมนิก้า” คงโฟกัสไปที่หุ้น BKD หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.26 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 15.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 263 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 3 ปี กลายเป็นช็อตที่น่าตามไปดูในสายตาคนที่ชอบตามกระแส ผสานกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นก็ดีขึ้นเป็นลำดับ เดี๊ยนถึงมองว่าการขยับตัวของหุ้นก่อนหน้านี้ต้องมีอะไรดีแน่ ๆ เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้น YGG ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 171 ล้านบาท น่าจะเป็นผลมาจากเม็ดเงินโฆษณาไหลเข้ามาในธุรกิจเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เชื่อว่า ปีนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีสำหรับหุ้นตัวนี้ บรรดานักเก็งกำไรถึงกระโจนใส่มือเป็นระวิง พร้อมกับวาดฝันจะได้เห็นหุ้นวิ่งกลับไปที่ยอดเดิมบริเวณ 12 บาทอีกครั้งแบบนี้..เว่อร์หรือไม่เว่อร์ ก็ต้องไปคิดกันเอาเองนะจ๊ะ