ALT โชว์ยอดติด “โซลาร์รูฟ” 5 เดือน 21 โครงการ รับรู้รายได้กว่า 600 ลบ.
ALT ปลื้มยอดติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป 5 เดือน 21 โครงการรับรู้รายได้ตลอดสัญญากว่า 600 ล้าน - ตั้งเป้าทั้งปีติดตั้ง 50 โครงการ ฟากผู้ประกอบการรีสอร์ท-โรงงานทำน้ำแข็ง-บ้านเอื้ออาทร เผยตอบโจทย์ประหยัดค่าไฟรวมทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นางสาวปรียาพรรณ ภูวกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด มหาชน หรือ ALT เปิดเผยว่า กระแสตอบรับในการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาหรือ Solar Rooftop ดีมาก ลูกค้าทั้งในส่วนของอุตสาหกรรม โรงงานขนาดกลาง ธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐให้ความสนใจติดตั้งจำนวนมากโดยยอด 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.65) สามารถติดตั้งให้กับลูกค้าไปแล้ว 21 โครงการ รวม 11 เมกะวัตต์
โดยลูกค้าของ เอแอลทีที่ติดตั้งโซลาร์ บนหลังคามีหลากหลายทั่วประเทศ ทั้งธุรกิจโรงงานแช่แข็ง โรงงานผลิตไอศครีม ธุรกิจรีสอร์ท โรงงานผลิตน้ำแข็งที่จังหวัดแพร่ โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราส่งออก โรงงานพลาสติกที่จังหวัดนครพนม โครงการภาครัฐหลายโครงการและโครงการบ้านเอื้ออาทรเป็นต้น
“คนให้ความสนใจติดตั้งมาก ซึ่งคิดว่ามาจากหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้กระแสตอบรับดี ทั้งเรื่อง ไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนหันมาทำงานที่บ้านมากขึ้น รวมทั้งกระแสโลก ที่คนสนใจหันมาใส่ใจเรื่องพลังงานสะอาดมากขึ้น และสถานการณ์ค่าไฟที่แพงขึ้นด้วย ขณะเดียวกันราคาแผงโซลาร์ ก็มีแนวโน้มถูกลง รวมทั้งภาครัฐมีนโยบายให้เอกชนสามารถขายคืนไฟให้กับภาครัฐได้ด้วย ยิ่งกระตุ้นให้คนสนใจติดตั้งแผงโซลาร์เร็วขึ้น” นางสาวปรียาพรรณ กล่าว
โดยรูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) นั้น ALT จะเป็นผู้ลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์ให้กับลูกค้า ทั้งการลงทุนติดตั้ง และการดูแลรักษาระบบฯ ซึ่งเหมาะกับผู้ประกอบการที่มีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าต่อเดือนตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป และมีการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวันมากกว่ากลางคืนถือว่าคุ้มค่ามาก ช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 15-20% ต่อรอบบิล โดยอายุสัญญาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 ปี บริษัทก็จะโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่่งสามารถเป็นเจ้าของระบบโซล่าร์โดยไม่ต้องลงทุน และยังเป็นการลดค่าไฟได้ตลอด 25 ปี
นางสาวปรียาพรรณ กล่าวอีกว่า การติดตั้งโซลาร์บนหลังคาให้กับบ้านที่อยู่อาศัย ที่บริษัทได้ทำการตลาด 2-3 เดือนที่ผ่านมา สำหรับบ้านที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 2,000-3,000 บาท/เดือน และมีการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันค่อนข้างมาก โดยค่าติดตั้งแผงโซลาร์ จะอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.9 แสนบาท และมีระบบให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะจ่ายทีเดียวหรือผ่อนจ่ายดอกเบี้ย 0% กับสถาบันการเงินได้นานถึง 10 งวด ก็ได้รับความสนใจ มีคนโทรเข้ามาสอบถามข้อมูลจำนวนมาก และอยู่ระหว่างการติดตั้งหลายราย ซึ่งในปีนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายว่าจะติดตั้งให้ได้ไม่น้อยกว่า 150 ราย
“หลังเกิดโควิด-19 ไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนไปมาก หันมาทำงานที่บ้านมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจส่วนตัว เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ออนไลน์ ก็ทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันจะมีปริมาณสูงขึ้น เหมาะที่จะติดตั้งแผงโซลาร์ ซึ่งบ้านที่อยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย 3 พันบาท หากติดตั้งแผงโซลาร์ขนาด 3 กิโลวัตต์ ค่าใช้จ่ายติดตั้งแค่ แสนบาทกว่าๆ เท่านั้น และสามารถคืนทุนได้ภายใน 6-7 ปี” นางสาวปรียาพรรณ กล่าว
ด้านนายสิทธิคุณ ธเนศวิทยาเวทย์ กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทไอเอ็มโปร เอเชีย จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจ รีสอร์ท ภายใต้ชื่อ X-it Resort ซ.พหลโยธินพัฒนา กรุงเทพฯ กล่าวว่า X-it Resort เปิดดำเนินการมา 11 ปี มีจำนวน 30 ห้อง ซึ่งในอดีตจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 1 แสนบาทต้นๆ ต่อเดือนแต่ระยะ 1-2 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มค่าไฟปรับเพิ่มขึ้นตลอด ทำให้ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าประมาณ 1.5 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งค่าไฟคิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 15-20% ของต้นทุนค่าใช้จ่ายรวม
ส่วนที่ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป รู้จักจากเพื่อนแนะนำมา แล้วมาศึกษา ก็เห็นว่าช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้ดีและอีกอย่างเป็นเทรนด์ของโลกด้วย รวมทั้งพิจารณาข้อเสนอของ ALT เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ดีในการติดตั้งแบบ Private PPA เพราะบริษัทไม่ต้องลงทุนเอง อีกอย่างคือมีสิทธิ์ซื้อคืนได้ ซึ่งจากการติดตั้งแผงโซลาร์ช่วยประหยัดค่าไฟได้ราว 3 หมื่นบาทต่อเดือนจากยอดเสียค่าไฟฟ้า 1.5 แสนบาท/เดือน ถือว่าช่วยลดต้นทุนได้อย่างมีนัยยะ
“ติดตั้งเสร็จใช้เป็นเดือนที่ 2 แล้ว ปกติอัตราการใช้ไฟฟ้าของรีสอร์ทจะเริ่มพีคในช่วงหลังเที่ยงที่คนมาเช็คอินเข้า ซึ่งโซลาร์ รูฟท็อปก็ตรงกับวัตถุประสงค์เรา แต่เราก็ติดตั้งได้เป็นบางส่วนเท่านั้นเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นหลังคายาง ตัดสินใจไม่นาน เป็นโมเดลที่ดี ค่าไฟฟ้าถูกกว่าราคาปกติ ถือว่า วิน วินทุกฝ่าย เราได้ใช้โซลาร์ในอัตราถูกกว่า จ่ายให้การไฟฟ้านครหลวงหรือ กฟน.ซึ่งผม มองระยะยาว 3-5 ปี หรือ 10 ปี ข้างหน้า อย่างไงก็ได้ประโยชน์ จากค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตลอด“ นายสิทธิคุณ กล่าว
ด้านประธานกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด บ้านเอื้ออาทรขจรวิทย์ 2 จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า โครงการบ้านเอื้ออาทรขจรวิทย์ 2 มีทั้งหมด 30 อาคารรวม 1,348 ห้อง ปกติส่วนกลางจะจ่ายค่าไฟฟ้าประมาณ 1.2 แสนบาทต่อเดือน การติดตั้งแผงโซลาร์ รูฟท็อปกับ ALT ถือเป็นโครงการประหยัดไฟเฟสที่ 2 โดยเฟสแรกที่ดำเนินการไปเมื่อปี 63 คือการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าตรงทางเดินทาง ทำให้ค่าไฟฟ้าลดเหลือ 7 หมื่นบาทต่อเดือน และตัดสินใจติดตั้งแผงโซลาร์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่สมบูรณ์นักทำให้ยังไม่เห็นภาพชัดว่าจะช่วยประหยัดค่าไฟได้เท่าไหร่
“เราศึกษาเรื่องติดตั้งแผงโซลาร์มานานกว่า 2 ปีแล้วเพราะถือเป็นแผนงานของนิติบุคคลที่วางไว้ ทำให้ตัดสินใจไม่ยาก เราคุยกับหลายๆ เจ้า คัดเลือกจนเหลือ 2-3 ราย ส่วน ALT เราก็เสิร์ชดูจากกูเกิ้ลแล้วติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ซึ่งพอคุยกันทุกอย่างตรงกับสิ่งที่เราต้องการก็ดำเนินการติดตั้งแบบ Private PPA ก็หวังว่าจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 15% ของค่าไฟฟ้าที่จ่ายในปัจจุบัน เพื่อจะได้มีเงินเหลือนำไปพัฒนาส่วนกลางต่อไป” ประธานกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด กล่าว
ด้านนายธงชัย ศิริกิจภิญโญกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่หล่าย ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงงานทำน้ำแข็ง ที่จังหวัดแพร่ กล่าวว่า ติดตั้งแผงโซลาร์กับ ALT เมื่อช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาในรูปแบบ Private PPA เพื่อช่วยลดค่าไฟฟ้าที่ใช้ช่วงเวลากลางวัน เนื่องจากค่าไฟฟ้า ถือเป็นต้นทุนหลักของโรงงาน การติดตั้งโซลาร์ดังกล่าว ถือว่าช่วยลดต้นทุนได้โดยที่ทางโรงงานไม่ต้องลงทุนหรือมีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพราะทาง ALT ลงทุน และดูแลระบบให้ตลอดอายุสัญญา